แอนท์-แมน และ เดอะ วอสพ์ ( Ant-Man and the Wasp) เป็นภาพยนตร์แนวซูเปอร์ฮีโร่ ดัดแปลงจากตัวละคร Ant-Man และ Wasp ของมาร์เวลคอมิกส์ ผลิตโดยมาร์เวลสตูดิโอส์และจัดจำหน่ายโดยวอลต์ดิสนีย์สตูดิโอส์โมชั่นพิคเจอร์ส เป็นภาคต่อของ มนุษย์มดมหากาฬ (พ.ศ. 2558) และเป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 20 ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลซึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้ง Ant-Man และ The Wasp ต้องร่วมมือกันกับ Hank Pym เพื่อช่วยเหลือ Janet van Dyne ออกมาจาก Quantum realm การวางแผนสร้างภาพยนตร์ภาคต่อของ Ant-Man เริ่มขึ้นไม่นานนักหลังจากภาพยนตร์ภาคแรกออกฉาย และได้รับการประกาศการสร้างและชื่อเรื่องเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2015 โดยยืนยันตั้งแต่ตอนแรกว่า Rudd และ Lily จะกลับมารับบทเดิมอีกด้วย
ในภาคนี้คือเหตุการณ์ที่เกิดหลังภาพยนตร์ Civil War สก็อตต์ แลงก์(Paul Rudd) ครั้งนี้เขารับบทซูเปอร์ฮีโร่เต็มตัว และเขาจำเป็นต้องมาร่วมมือกับแฟนเก่าอย่าง โฮป แวน ไดน์ (Evangeline Lilly) เหมือนบุพเพสันนิวาสเพราะว่าเธอก็เป็นฮีโร่สาวมีชื่อว่าเดอะวอส์พ เพราะว่าดร. แฮงค์ พิม(Michael Douglas) ซึ่งเป็นผู้ออกแบบชุด Ant Man ให้สก็อตต์ ก็ดันมาเป็นพ่อของแฟนเก่าไปซะงั้น ภารกิจที่เขาและเธอต้องร่วมมือกันคือ โกสต์ (Hannah John-Kamen) ที่มีพลังประหลาดและ ซอนนี่ เบิร์ช (Walton Goggins) หนังให้ความสนุกและความบันเทิงมากมายเช่นเดิม และยังไม่พลาดที่จะคงประเด็นครอบครัวระหว่างพ่อลูกอย่างอบอุ่น หนังมีความใหม่ขึ้นด้วยลูกเล่นที่เพิ่มจากเดิมในภาคแรกคือแค่ย่อส่วน ภาคนี่นอกจากจะย่อให้เล็กจิ๋ว ยังสามารถขยายให้ใหญ่เบ้อเร้อได้เช่นกัน ทำให้หนังเรื่องนี้ให้ความบันเทิงแบบเต็มขั้นแบบที่ฮีโร่มาร์เวลตัวอื่นมีไม่ถึง
| ประเภทหนัง | Action , super hero , comedy |
| กำกับโดย | เพย์ตัน ทักเกอร์ รีด |
| บทภาพยนตร์โดย | พอล สตีเฟน รัด |
| ถือลิขสิทธิ์และสร้างโดย | มาร์เวล สตูดิโอส์ , วอลต์ดิสนีย์สตูดิโอส์ โมชันพิกเจอส์ |
| คะแนน IMDb | 7.3 |
หนังนำความเพลิดเพลินมาให้คนดูตั้งแต่เปิดเรื่องยันจบ มีครบทุกรสทั้งตลก อบอุ่นแบบครอบครัวพ่อลูก รวมถึงActionมันส์ แต่หนังทิ้งปมให้คนดูคิดว่า เดี๋ยวคงจะมีความวายป่วงเกิดขึ้นอีกไม่เร็วก็ช้านี่แหละ เพราะหนังเรื่องนี้ทิ้งปมเรื่องเกี่ยวกับมิติควอนตัมเอาไว้ทำให้สามารถเอาไปเชื่อมต่อกับภาค End Game ซึ่งบอกเลยว่าสก็อตคือมิติแห่งความหวังที่แท้จริงในขณะที่หลาย ๆ คนนึกไม่ถึงก็ตาม ความสวยงามของมิติควอนตัมซึ่งเป็นหัวใจหลักของภาคนี้ คือการพัฒนาขึ้นของเอฟเฟกต์และ CG ที่สมบูรณ์แบบ เพราะภาคที่แล้วหนังไม่มีฉากเอฟเฟกต์ที่โดดเด่น ภาคนี้พัฒนาได้ดีมากจนต้องยกนิ้วให้
หนังเน้นความฉายเดี่ยวของฮีโร่ เพราะงั้นถ้าจะถามว่าต้องดูหนังของฮีโร่ตัวอื่นในจักรวาลมาร์เวลไหม ไม่ต้องครับ หนังมีคำถาม ปม และคำตอบอยู่ในเรื่องราวโดยไม่ต้องไปหาคำตอบที่ไหนอีก แต่กระนั้นถ้าใครจะคิดว่าการฉายเดี่ยวของ Ant Man ดีอยู่แล้ว มีคู่หูมาด้วยจะไม่กร่อยหรอ บอกได้ตรงนี้ว่าไม่เลยค่ะ ทำให้หนังดูมีโมเมนท์อะไร ๆ อีกมากมาย ทั้งการต่อสู้แบบแท็คทีม และปมถ่านไฟเก่าที่คนดูอาจจะแอบเชียร์แอบลุ้นกัน
หนังยังคงไม่ทิ้งความอบอุ่นของพ่อลูกที่สร้างความประทับใจให้กับคนดูในภาคแรก ภาคนี้ยังคงอย่างคุกรุ่นเช่นเคย มันทำให้คนดูรู้สึกอินและอบอุ่นใจกับพ่อคนหนึ่งที่ต้องการปกป้องลูกสาวจากอันตรายต่าง ๆ คนเป็นพ่อดูคงมีอินแน่นอน หนังมีลูกเล่นเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นการย่อส่วนให้เล็ก หรือการขยายให้ใหญ่จนกลายเป็นมดยักษ์ เลยทำให้ได้คำตอบแล้วว่าทำไมภาคที่แล้วหนังถึงไม่เผยฉากหรือไม้ตาย Action ให้คนดูมากนักที่แท้ก็อุบมาไว้ในภาคสองนี่เอง หนังมีครบทุกรสจนเรียกได้ว่าให้ดูหลายรอบก็ดูได้ไม่มีเบื่อเลย มิติควอนตัมที่หนังหยิบยกมาเป็นประเด็นสำคัญของเรื่อง บอกได้เลยว่าเอฟเฟกต์คืองานดีมหาศาลมาก ความสวยของมิติที่มนุษย์ธรรมดาไม่มีวันมองเห็นหรือเข้าถึง หนังเรื่องนี้จะพาคนดูขยายม่านตาให้เห็นอะไรที่เปิดโลกทัศน์และสวยงามกว่าเดิม
นักแสดงนำของเรื่อง
พอล สตีเฟน รัด (Paul Stephen Rudd)รับบทเป็น สกอตต์ แลง/แอนต์-แมน
นิโคล อิแวนเจลีน ลิลลี (Nicole Evangeline Lilly) รับบทเป็น โฮป แวน ไดน์
แฮนนาห์ ดอมีนิก อี. จอห์น-คาเมน ( Hannah Dominique E. John-Kamen) รับบทเป็น เอวา สตาร์ / โกสต์
ไมเคิล แอนโทนี เพ็นยา ( Michael Anthony Peña) รับบทเป็น ลูอิส
ไมเคิล เคิร์ก ดักลาส ( Michael Kirk Douglas) รับบทเป็น แฮงก์ พิม/แอนต์-แมน
ตัวอย่างภาพยนตร์
ไฮไลท์ของหนัง
1. มิติควอนตัมที่เราไม่เคยรู้จัก หนังเรื่องนี้จะค่อยๆ ย่อมิติควอนตัมให้คนดูได้เห็นว่ามีประโยชน์และมีความสำคัญอย่างไร แม้จะเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ที่ยากจะเข้าใจ แต่บอกได้เลยว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นผู้บอกและสอนคุณเอง
2. ความมุ่งมั่นที่จะปราบเหล่าร้าย อย่างที่เห็นกันว่าการที่ให้คนที่เคยมีความหลังมาทำงานสำคัญด้วยกันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่ แต่ทั้งคู่ก็พยายามเก็บอารมณ์และความรู้สึกโดยให้ความสำคัญกับภารกิจเป็นหลัก
3. หนังให้ความบันเทิงแบบเต็มขั้นชนิดที่เรียกว่าไม่ดูไม่ได้แล้ว หนังมีปมที่จะขยายไปภาคถัดไปได้และเป็นตัวเชื่อมโยงที่สำคัญในภาค End Game แต่ถ้าเอาแค่หนังเน้นมันบันเทิงครบทุกรสเรื่องนี้จะตอบโจทย์คนดูแน่นอน
ถึงแม้ว่าแก่นหลักของหนังภาคนี้อาจจะพูดเรื่องการรวมพลังกันของคนในครอบครัว แต่เราก็อดรู้สึกไม่ได้ว่า เหตุการณ์หลายอย่างใน Ant-Man and the Wasp ไม่ได้ทำให้เราทำความเข้าใจกับ “จักรวาลมาร์เวล” เพิ่มขึ้นสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมิติควอนตัม (ที่ยกมาพูดลอยๆและไม่ได้รับการอธิบายอย่างที่ควรจะเป็น) ความน่าเชื่อถือระหว่างเหตุการณ์ 3 วันก่อนธานอสบุกโลกแต่ก็อยากให้ลองไปชมกันค่ะ
ที่มาเพิ่มเติม th.wikipedia.org
