ภาพยนตร์เรื่อง Brokeback Mountain หรือที่เรารู้จักกันในชื่อไทยว่า หุบเขาเร้นรัก โดยบทภาพยนตร์เรื่องนี้เจมส์ ชามัส ดัดแปลงจากเรื่องสั้นชื่อเดียวกันในปี 1997โดย Annie Proulx ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างชายหนุ่มสองคนในอเมริกาตะวันตก ยุคปี ค.ศ. 1963 – 1983หนังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 9 ธันวาคม ปี 2005 ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการแสดงของเลดเจอร์และจิลเลนฮาล และประสบความสำเร็จในด้านของรายได้ ด้วยการทำรายได้ไปกว่า 178 ล้านเหรียญทั่วโลกจากงทุนสร้างเพียง 14 ล้านเหรียญเท่านั้น หุบเขาเร้นรัก ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก British Academy of Film and Television Arts, รางวัลลูกโลกทองคำ, Critics Choice Awards และ Independent Spirit Awards ทั้งนี้ยังไม่รวมรางวัลจากสถาบันและงานเทศกาลภาพยนตร์ต่าง ๆ หุบเขาเร้นรัก ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลอะคาเดมี (ออสการ์) ครั้งที่ 78 มากที่สุดถึง 8 สาขา นักแสดงหลักต่างถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล เช่น รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม รวมทั้งยังได้รับการคาดหมายเป็นตัวเก็งว่าน่าจะคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แต่ในที่สุด หุบเขาเร้นรัก ก็คว้ารางวัลออสการ์ได้ทั้งสิ้น 3 สาขา ได้แก่ สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม และ สาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
หุบเขาเร้นรัก เป็นเรื่องราวชีวิตของเอนนิส เดล มาร์ (ฮีท เลดเจอร์) และ แจ็ก ทวิสต์ (เจค จิลเลนฮอล) คาวบอยหนุ่มสองคนที่พานพบและตกหลุมรักกันเมื่อปี ค.ศ. 1963 ระหว่างทำงานต้อนแกะบนภูเขาโบรคแบ็กในรัฐไวโอมิง ภาพยนตร์นำพาผู้ชมผ่านความสัมพันธ์อันซับซ้อนของบุคคลทั้งสองตลอดช่วง 20 ปีให้หลัง เอนนิสและแจ็กเริ่มงานบนภูเขาโบรคแบ็กโดยแยกกันอยู่คนละที่ เอนนิสอยู่เฝ้าแคมป์ ส่วนแจ็กเฝ้าแกะบนภูเขาที่อยู่สูงเหนือขึ้นไป ช่วงแรกทั้งสองจึงพบกันเฉพาะเวลาอาหารที่แคมป์ นานเข้าจากที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ทั้งคู่เริ่มสนิทจนเป็นเพื่อนกัน ไม่นานหลังจากนั้นเริ่มมีการสลับหน้าที่กันโดยแจ็กอยู่เฝ้าแคมป์และเอนนิสออกไปเฝ้าแกะ คืนหนึ่งทั้งสองคนดื่มวิสกี้จนเมามาย เอนนิสตัดสินใจไม่ไปเฝ้าแกะและลังเลที่จะเข้าไปนอนในกระโจมเดียวกับแจ็ก
ประเภทหนัง | Romantic, drama |
กำกับโดย | หลี่ อัน |
บทภาพยนตร์โดย | Larry McMurtryDiana Ossana |
ถือลิขสิทธิ์และสร้างโดย | Focus Features |
คะแนน IMDb | 7.7 |
ดึกมากขึ้นเมื่อกองไฟที่จุดไว้มอดดับไป อากาศหนาวเย็นมากจนแจ็กต้องเรียกให้เอนนิสเข้าไปนอนในกระโจม ทั้งคู่เริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเกินกว่าเพื่อนในคืนนั้นและยิ่งแนบแน่นขึ้นตลอดช่วงฤดูร้อน เมื่องานบนภูเขาโบรคแบ็กถึงคราวสิ้นสุด ทั้งคู่แยกย้ายกันไปคนละทาง เอนนิสกลับไปเริ่มต้นชีวิตครอบครัวโดยแต่งงานกับคู่หมั้น อัลมา เบียส์ (มิเชลล์ วิลเลียมส์) แจ็กได้พบและแต่งงานกับ ลูรีน นิวซัม (แอนน์ แฮทาเวย์) สาวสวยนักขี่ม้าครอบครัวมีอันจะกินที่เท็กซัส เอนนิสได้ลูกสาวสองคนขณะที่แจ็กมีลูกชายหนึ่งคน4 ปีต่อมา เอนนิสได้รับไปรษณียบัตรจากแจ็ก แจ้งข่าวว่าเขาจะเดินทางผ่านมาแถวนั้น และแวะมาเยี่ยมในฐานะเพื่อนเก่า การพบกันทำให้พวกเขารู้ว่าความรู้สึกที่มีต่อกันยังคงเหมือนครั้งที่ได้เจอกันบนภูเขาโบรคแบ็ก
แจ็กเริ่มเอ่ยถึงความเป็นไปได้ที่เขาทั้งคู่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในฟาร์มเล็ก ๆ ทว่านอกจากไม่อยากจากครอบครัวแล้ว เอนนิสยังฝังใจกับความทรงจำในอดีตที่เขาได้รับรู้ถึงการทรมานและการฆาตกรรมชายที่เป็นเกย์ เอนนิสกลัวว่าการเปิดเผยความสัมพันธ์อาจทำให้ชีวิตของเขาต้องกลายเป็นโศกนาฏกรรมในที่สุด หลังจากพบกันคราวนั้น เอนนิสกับแจ็กก็นัดพบกันอีกบนภูเขาโบรคแบ็กแต่ไม่บ่อยนัก ปีแล้วปีเล่า ชีวิตแต่งงานของเอนนิสมีแต่ย่ำแย่ลง ส่วนหนึ่งเพราะอัลมาล่วงรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างสามีของเธอกับแจ็กนับตั้งแต่การนัดพบผ่านไปรษณียบัตรครั้งแรก
หนังเต็มไปด้วยฉากสะเทือนใจมากมาย ทั้งฉากที่พวกเขาเริ่มสูงวัยแต่ก็ยังออกจากความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนนี้ไม่ได้ หรือฉากจบอันแสนสะเทือนใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหมายอันลึกซึ้งของเสื้อเชิ้ตสองตัวที่ซ้อนทับกันในตู้เสื้อผ้าก็ยังตราตรึงใจอยู่เลย
นักแสดงนำของเรื่อง
ฮีธ เลดเจอร์ ( Heath Andrew Ledger ) รับบทเป็น เอนนิส เดล มาร์
เจค จิลเลนฮาล ( Jacob Benjamin Gyllenhaal ) รับบทเป็น แจ็ค ทวิส
มิเชลล์ วิลเลียมส์ ( Michelle Ingrid Williams ) รับบทเป็น อัลมา เบียร์ส เดล มาร์
แรนดี เควด ( Randy Randall Rudy Quaid ) รับบทเป็น โจ อากีร์เร
แอน แฮทธาเวย์ ( Anne Jacqueline Hathaway ) รับบทเป็น ลูรีน นิวซัม ทวิสต์
ลินดา คาร์เดลินี ( Linda Edna Cardellini ) รับบทเป็น แคสซี่ คาร์ทไรท์
ตัวอย่างภาพยนตร์
ไฮไลท์ของหนัง
1. มนุษย์มักที่จะจำกัดนิยาม ‘ความรัก’ เข้ากับเพศ ชาย-หญิง ถือว่าคือความปกติ ขณะที่ ชาย-ชาย, หญิง-หญิง นั้นผิดแผกแปลกประหลาดซึ่งหนังเรื่องนี้ได้เปิดหูเปิดตาเปิดใจว่าที่จริงแล้วความรักไม่ได้มีนิยามแบบนั้น
2. ส่วนตัวชอบภาพการถ่ายก้อนเมฆของหนังเลย เลือกมาแต่ละช็อตพยายามสื่อความหมายถึงมรสุม ความยุ่งยากวุ่นวายที่ค่อยๆเคลื่อน คืบคลานเข้ามาในชีวิตของชายหนุ่มทั้งสอง
3. ช็อตสุดท้ายของหนัง Ennis เปิดตู้เสื้อผ้า (สัญลักษณ์ของชาวเกย์ สื่อถึงตัวตนแท้จริงหลบซ่อนเร้นไว้ภายใน) ปรากฎรูปภาพสถานที่ Brokeback Mountain และเสื้อผ้าของ Jack หยิบขึ้นมาแนบกอด เราสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของตัวละครเลย
สรุปโดยรวมแนะนำอย่างยิ่งกับคอหนังโรแมนติก สะท้อนสภาพสังคมอเมริกาในยุค 60s, ได้เป็นอย่างดี เป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรพลาดด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม
ที่มาเพิ่มเติม
en-m-wikipedia-org.translate.goog