และแล้วครั้งนี้ก็เป็นคิวของภาคต่อของภาพยนตร์ไตรภาคพิภพวานรอย่าง Dawn of the Planet of the Apes หรือในชื่อไทย รุ่งอรุณแห่งอาณาจักรพิภพวานร ภาคนี้ออกฉายเมื่อ ค.ศ. 2014 กำกับโดย Matt Reeves เขียนบทโดย Mark Bomback, Rick Jaffa และ Amanda Silver นำแสดงโดย Andy Serkis, Jason Clarke, Gary Oldman, Keri Russell, Toby Kebbell, และ Kodi Smit-McPhee เป็นภาคต่อจากภาพยนตร์ปี ค.ศ. 2011 เรื่อง กำเนิดพิภพวานร ซึ่งเป็นภาคแรกของพิภพวานรภาครีบู๊ตของทเวนตีท์เซนจูรีฟอกซ์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ดำเนินเรื่องในเวลาสิบปีหลังจากภาคก่อนหน้า เล่าเรื่องของกลุ่มคนในซานฟรานซิสโกซึ่งกำลังพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะอยู่รอด หลังจากเหตุการณ์โรคระบาดที่ทำให้มนุษย์แทบจะสูญสิ้น ในขณะที่วานรซีซาร์ก็กำลังใช้ความพยายามเพื่อที่จะควบคุมและรักษาสถานภาพในหมู่วานรที่มีสติปัญญาสูงด้วยกัน โดยที่ภาคนี้ทำรายได้ทั่วโลกรวม 710 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว
ในภาคนี้เรื่องราวผ่านจากภาคแรกไปราว 10 ปี บัดนี้ซีซาร์ได้เป็นหัวหน้าฝูงลิงที่กำลังสร้างสังคมและอารยธรรมของตนเองในป่าของซานฟรานซิสโก เขามีภรรยาเป็นลิงที่ช่วยไว้ในภาคแรกชื่อว่า คอร์นีเลีย และมีลูกด้วยกันหนึ่งคนคือ บลูอายส์ ในขณะที่ประชากรมนุษย์ทั่วโลกล้มตายจากเชื้อไวรัส ALZ-113 จนเหลือคนเพียงไม่มากที่มีภูมิคุ้มกันทางธรรมชาติ อารยธรรมมนุษย์เข้าขั้นใกล้ล่มสลายทีเดียว วันหนึ่งมีกลุ่มมนุษย์เดินทางเข้ามาสำรวจในป่า และมนุษย์คนหนึ่งชื่อว่า คาร์เวอร์ (เคิร์ก อะเซเวโด) ได้บังเอิญพบกับ แอช ลูกของร็อคเก็ตลิงในภาคแรกและเพื่อนซี้ของบลูอายส์ ด้วยความกลัวคาร์เวอร์จึงเผลอยิงใส่แอชเข้า มัลคอล์ม (เจสัน คลาร์ก) หัวหน้าของคาร์เวอร์ได้ตามมาถึงจุดที่คาร์เวอร์อยู่ แต่ก็ถูกซีซาร์และพวกรุมล้อมไว้แล้ว โชคดีที่แอชไม่เป็นอะไรมาก ซีซาร์จึงได้ไล่พวกกลุ่มของมัลคอล์มกลับไป แต่ด้วยความรอบคอบซีซาร์จึงสั่งให้โคบา ซึ่งบัดนี้เป็นหัวหน้าทหารลิง ออกสะกดรอยตามกลุ่มมนุษย์ไปว่ามาด้วยจุดประสงค์ใด
| ประเภทหนัง | ไซไฟ |
| กำกับโดย | แมตต์ รีฟส์ |
| บทภาพยนตร์โดย | มาร์ค บอมแบ็คริก จาฟฟา อแมนดา ซิลเวอร์ |
| ถือลิขสิทธิ์และสร้างโดย | ทเวนตีส์เซ็นจูรีฟ็อกซ์ |
| คะแนน IMDb | 7.6 |
โคบา ตามกลุ่มของมัลคล์มมาถึงกลางเมืองซานฟรานซิสโก ที่นั่นพวกมนุษย์ที่เหลือรอดรวมตัวกันอยู่ในตึกสูงที่เรียกว่า ทาวเวอร์ โดยมีหัวหน้ากลุ่มชื่อว่า เดรฟัส (แกรี่ โอลด์แมน) คอยดูแล มัลคอล์มแจ้งเรื่องพบลิงพูดได้ให้กับเดรฟัส ซึ่งเหล่ามนุษย์ต้องการเข้าไปซ่อมระบบปั่นไฟฟ้าที่อยู่ในเขื่อนซึ่งพวกซีซาร์อาศัยอยู่ เพื่อมีพลังงานมาใช้ในตัวเมือง การที่พวกซีซาร์คุมอยู่ทำให้การซ่อมเป็นไปได้ลำบาก คอร์นีเลียได้คลอดลูกชายคนที่สองให้ซีซาร์ ในขณะที่โคบาผู้มีความเคียดแค้นมนุษย์เพราะเคยถูกจับทดลองก็แสดงเจตนาที่จะห้ำหั่นมนุษย์ แต่ถูกซีซาร์ปรามไว้ ตอนนี้ซีซาร์คิดว่าจำเป็นที่จะต้องปกป้องตนเองจากการรุกรานของมนุษย์ที่พบเจอรังของพวกเขาแล้ว ซีซาร์จึงนำกองทัพลิงมายังทาวเวอร์ เพื่อแสดงเจตนาว่าตนไม่คิดจะทำร้ายมนุษย์ แต่จะปกป้องตนเองหากมนุษย์รุกรานก่อน และขอให้ต่างคนต่างอยู่ไปก่อนจึงต้องยกพวกกลับ
มัลคอล์มปรึกษากับเดรฟัสถึงทางเลือกด้านพลังงานแต่ก็หาทางออกไม่ได้ มัลคอล์มจึงอาสาเข้าไปเจรจากับซีซาร์เพื่อขออนุญาตนำคนมาซ่อมเครื่องปั่นไฟฟ้า และจะไม่รบกวนพวกลิงอีก ซีซาร์เล็งเห็นอนาคตที่อาจอยู่ได้อย่างสันติจึงอนุญาต ท่ามกลางความไม่พอใจของโคบา โดยมีข้อตกลงว่าห้ามมนุษย์นำอาวุธเข้ามาเด็ดขาด มัลคอล์มพาภรรยาที่เป็นอดีตนางพยาบาลชื่อ เอลลี่ (เครี่ รัสเซล) และลูกชายอย่าง อเล็กซานเดอร์ (โคดี้ สมิท-แมคฟี) รวมถึงพรรคพวกเข้ามาซ่อมเครื่องปั่นไฟ โดยมีคาร์เวอร์ที่เป็นอดีตพนักงานประปาเข้ามาช่วย ระหว่างนั้นทำให้ความสัมพันธ์ของฝูงลิงกับกลุ่มมัลคอล์มดีขึ้นมาก ลิงเริ่มไว้ใจมนุษย์มากขึ้น
ในภาคเนื้อเรื่องถูกเขียนออกมาดี เราสัมผัสได้เลยว่าหนังเรื่องนี้มาในโทนดาร์คและจริงจัง เน้นบรรยากาศความเป็นหนังสู้ความขัดแย้งระหว่างสองเผ่าพันธุ์ได้เป็นอย่างดี ทุกครั้งที่ทั้งสองฝ่ายมาเผชิญหน้ากันต้องได้ลุ้นตามทุกครั้งว่าจะเกิดอะไรขึ้น
นักแสดงนำของเรื่อง
แอนดี้ เซอร์คิส ( Andrew Clement Serkis ) รับบทเป็น ซีซาร์
โทบี้ เค็บเบล ( Tobias Alistair Patrick Kebbell ) รับบทเป็น Koba
จูดี้ เกรียร์ ( Judith Therese Evans ) รับบทเป็น Cornelia
นิค เธอร์สตัน ( Nick Thurston ) เรับบทเป็น Blue Eyes
คาริน โคโนวาล ( Karin Konoval ) รับบทเป็น Maurice
ตัวอย่างภาพยนตร์
ไฮไลท์ของหนัง
1. หนังที่โชว์เทคนิคโมแคปเจอร์ได้ดีและสมจริงเลยทีเดียว ภาพของวานรนับร้อยในเรื่อง เทคนิคพิเศษก็เอาอยู่ ดูสมจริงและเรียบเนียนบอกเลยว่าสนจริงกว่าภาคแรกเสียอีก
2. ในภาคทำออกมาได้ดีเน้นดึงอารมณ์ของคนดูแอบมีให้เราคนดูเลือกฝั่งด้วย โดยไม่เน้นความโฉ่งฉ่างด้วยเทคนิคพิเศษจากฉากต่อสู้จนเกินไปหรือเน้นบันเทิงอย่างเดียว คือมันมีความลึกซึ้งทางด้านอารมณ์
3. มีเรื่องราวดราม่าทั้งฝั่งของมนุษย์เองและวานร เลยทำให้คนดูอยากเอาใจช่วย มีความผูกพันธ์กับตัวละครในเรื่องเลยทำให้เราอยากติดตามหนังตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีช่วงน่าเบื่อ ยืดยาดเลย
สรุปแล้ว รุ่งอรุณแห่งอาณาจักรพิภพวานร เป็นหนังที่ควรหามาดูอย่างยิ่ง ใครที่จะดูภาคสามอย่าง War for the planet of the Apes น่าจะหาภาคนี้มาดูอุ่นเครื่องก่อนนะ เพราะภาคนี้เต็มไปด้วยความสนุก ฉากแอ็คชั่นก็เข้มข้น ตื่นเต้น ได้อารมณ์หนังสงครามดุเดือด ภาพเทคนิคสมจริง ไม่ควรพลาด
ที่มาเพิ่มเติม
en-m-wikipedia-org.translate.goog
