ภาพยนตร์เรื่อง Inception หรือที่เรารู้จักกันในชื่อไทยว่า จิตพิฆาตโลก ภาพยนตร์ได้รับแรงบันดาลใจจากภาวะที่คนเราสามารถที่จะรู้สึกตัวและตระหนักได้ว่าตนเองนั้นอยู่ในความฝัน โดยมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการโจรกรรมของดอม คอบบ์ที่มีความสามารถในการเข้าไปในฝันของคนอื่นเพื่อขโมยข้อมูล ภาพยนตร์ออกฉายรอบปฐมทัศน์ที่ลอนดอน เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ค.ศ. 2010 และออกฉายทั้งโรงธรรมดาและโรงไอแมกซ์ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 2010 ทำรายได้มากกว่า 21 ล้านดอลลาร์สหรัฐในวันเปิดตัว และทำรายได้ 62.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์เปิดตัว และทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า 828 ล้านเหรียญสหรัฐ กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดอันดับสี่ของปี และถือว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดของปี 2010 ด้วยทุนสร้าง 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น
หนังเล่าเรื่องของ ดอม คอบบ์ (ลีโอนาร์โด ดีคาปริโอ) คือชายผู้ก่อตั้งทีมจารกรรมความคิด เขาและทีมงานจะเจาะเข้าไปในจิตใจของเป้าหมายผ่านทางการแชร์ความฝัน เพื่อดึงเอาข้อมูลลับที่เป้าหมายเก็บงำไว้ในจิตใต้สำนึกออกมาตามคำสั่งของผู้ว่าจ้าง ซึ่งโดยมากแล้วจะเป็นการล้วงความลับทางธุรกิจ เป้าหมายรายล่าสุดของคอบบ์และทีมงานคือ ไซโตะ (เคน วะตะนะเบะ) นักธุรกิจชาวญี่ปุ่น คอบบ์ทำการล้วงข้อมูลของไซโตะผ่านทางความฝันซ้อนฝัน ซึ่งจบลงด้วยความล้มเหลว แต่ไซโตะกลับยื่นข้อเสนอว่าจ้างทีมของคอบบ์ให้ทำการ “อินเซพชั่น” ข้อมูลลงในจิตของเป้าหมายแทน อินเซพชั่นคือกระบวนการที่ตรงข้ามกับการล้วงข้อมูล โดยแทนที่จะล้วงลึกไปถึงข้อมูลที่เป้าหมายเก็บซ่อนไว้ กลับกลายเป็นการนำเอาข้อมูลที่ต้องการลงไปเก็บไว้ในที่ซ่อนของเป้าหมายแทน เริ่มแรกคอบบ์ปฏิเสธเนื่องจากเป็นกระบวนการที่ยากมาก แต่ไซโตะก็ขอตอบแทนเป็นการล้มล้างความผิดที่คอบบ์เคยฆาตกรรมภรรยาตนเองในอดีต และจะได้สิทธิ์กลับเข้าสู่สหรัฐอเมริกา คอบบ์จึงตกลงและเริ่มต้นวางแผนการทำงานทันที
ประเภทหนัง | Fiction, action |
กำกับโดย | คริสโตเฟอร์ โนแลน |
บทภาพยนตร์โดย | คริสโตเฟอร์ โนแลน |
ถือลิขสิทธิ์และสร้างโดย | วอร์เนอร์บราเธอร์ส Legendary PicturesSyncopy |
คะแนน IMDb | 8.8 |
ปฏิบัติการอินเซพชั่นครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อปลูกฝังความคิดให้กับโรเบิร์ต ฟิชเชอร์ (คิลเลียน เมอร์ฟี) ทายาทกิจการด้านพลังงานของมอริส ฟิชเชอร์ (พีท โพสเทิลเวท) ซึ่งกำลังจะเสียชีวิตจากโรคร้าย หากโรเบิร์ตได้ขึ้นครองกิจการต่อไปจะทำให้ธุรกิจของไซโตะต้องสั่นคลอน คอบบ์จึงวางแผนว่าจะปลูกฝังความคิดที่ว่า “พ่อของฉัน (โรเบิร์ต) ไม่ต้องการให้ฉันอาศัยรอยเท้าของเขาในแวดวงธุรกิจ” ลงไป ในปฏิบัติการนี้ต้องการทีมงานตำแหน่งต่าง ๆ เริ่มจาก อาร์เธอร์ (โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์) ในตำแหน่งคนชี้เป้า ผู้ประสานงานระหว่างสมาชิกแต่ละคน, อีมส์ (ทอม ฮาร์ดี้) ในตำแหน่งนักปลอมแปลง ผู้สามารถแปลงโฉมตัวเองเป็นใครก็ได้ในความฝัน เพื่อหลอกล่อเป้าหมายมาสู่แผนที่วางไว้, ยูซุฟ (ดิลีพ ราโอ) ในตำแหน่งนักเคมี ผู้ปรุงยาที่จะทำให้หลับลึกลงไปในระยะเวลาตามที่ต้องการ และสุดท้ายคือ แอเรียดเน่ (เอลเลน เพจ) ในตำแหน่งสถาปนิก ผู้ออกแบบเส้นทางสภาพแวดล้อมในความฝัน
ในขั้นตอนการวางแผนนี้คอบบ์ได้สอนให้แอเรียดเน่รู้จักกับโครงสร้างของความฝัน และคุณสมบัติของฝัน เช่น ผู้ฝันจะไม่ทราบจุดเริ่มต้นของฝัน แต่จะปรากฏขึ้นกลางทางในทันที หรือการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมรอบกายได้ดังใจนึก คอบบ์ยังได้สอนให้แอเรียดเน่รู้จักการใช้ “โทเทม” ซึ่งเป็นวัตถุชิ้นเล็ก ๆ ตามแต่ละบุคคลจะเลือกมา โดยต้องรู้คุณสมบัติของมันอย่างถี่ถ้วน หากไม่แน่ใจว่าฝันอยู่หรือไม่ ให้สังเกตโทเทมประจำตัว หากมีคุณสมบัติผิดแปลกไปจากที่เคยเป็น ก็หมายถึงบุคคลนั้นกำลังอยู่ในฝันของคนอื่น
ต้องบอกว่าทีมนักแสดงจาก Inception นั้นยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นลีโอนาร์โดที่แสดงได้อย่างโดดเด่นในบทของดอม คอบบ์ ที่เขาถ่ายทอดอารมณ์ที่หลากหลาย และถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครออกมาได้อย่างลึกซึ้ง นักแสดงสมทบก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน โดยนักแสดงแต่ละคนนำเสนอเรื่องราวในแบบฉบับของตัวเอง ภาพยนตร์เรื่องนี้มีเคมีที่ลงตัวระหว่างตัวละครและบทพูดที่เขียนได้อย่างดี
นักแสดงนำของเรื่อง
ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ ( Leonardo DiCaprio) รับบทเป็น ดอม คอบบ์
เคน วาตานาเบะ (Ken Watanabe) รับบทเป็น ไซโตะ
โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ ( Joseph Leonard Gordon-Levitt ) รับบทเป็น อาร์เธอร์
มารียง กอตียาร์ ( Marion Cotillard ) รับบทเป็น มอล คอบบ์
เอลเลียต เพจ ( Elliot Page) รับบทเป็น แอเรียดเน่
เอ็ดเวิร์ด โทมัส ฮาร์ดี้ ( Tom Hardy ) รับบทเป็น อีมส์
ตัวอย่างภาพยนตร์
ไฮไลท์ของหนัง
1. แทบจะไม่พึ่ง CG เลย ดังนั้นฉากห้องโรงแรมที่ยกพื้นขึ้นให้เอียง 25 องศา ซึ่งนักแสดงและทีมงานก็ต้องเอียงตามตอนถ่ายทำกันไปด้วยเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก
2. อีกสิ่งที่ชอบในเรื่องนี้คือ การตั้งคำถาม what if …? หรือ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหาก… เป็นสไตส์การเขียนบทที่มีลักษณะเฉพาะของโนแลนเขาเลย แล้วก็ทำออกมาได้ดีมาก
3. ฉากแอ็คชั่นต่างๆ ผสมกับความซับซ้อนเข้าไปอีก ทำให้หนังดูหนัก ดูสนุก น่าลุ้น น่าติดตาม ต้องใช้สมาธิอย่างมากเรียกได้ว่าดึงเราให้อยู่กับหนังจนละสายตาไม่ได้เลย
โดยสรุปแล้ว Inception เป็นภาพยนตร์ที่กระตุ้นความคิดและมีภาพที่น่าทึ่งซึ่งจะทำให้คุณตั้งคำถามถึงความเป็นจริง ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอีกขั้นของการสร้างภาพยนตร์ ด้วยการเล่าเรื่องที่แปลกใหม่ เทคนิคพิเศษที่น่าทึ่ง และนักแสดงมากความสามารถ เป็นเรื่องที่ต้องดูสำหรับแฟน ๆ ของนิยายวิทยาศาสตร์และระทึกขวัญรวมถึงผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวที่ดี Inception จะท้าทายการรับรู้ความเป็นจริงของคุณและทำให้คุณเพลิดเพลินตั้งแต่ต้นจนจบ
ที่มาเพิ่มเติม
en-m-wikipedia-org.translate.goog