ภาพยนตร์เรื่อง Johnny English Strikes Againเป็นภาพยนตร์แอคชั่นคอมเมดี้สายลับปี 2018 ที่กำกับโดย David Kerr [1]เป็นภาคต่อของ Johnny English Reborn (2011) และเป็นภาคที่สามและภาคสุดท้ายของซีรี่ส์ Johnny English ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดยโรวัน แอตคินสันในบทนำ ร่วมกับเบ็น มิลเลอร์ ,โอลก้า คูรีเลนโก ,เจค เลซีและเอ็มมา ธอมป์สัน เจ้าหน้าที่ MI7 ที่มีตำแหน่งสูงได้ถูกเรียกให้มาทำหน้าที่ในปฏิบัติภารลับ อีกครั้งจึงเป็นจุดกำเนิดของความฮาในครั้งนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในสหราชอาณาจักรในวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2561 และในสหรัฐอเมริกาในวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561 โดยUniversal Pictures ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคำวิจารณ์ในแง่ลบเพียงเล็กน้อยจากนักวิจารณ์ แต่ก็ประสบความสำเร็จในด้านของรายได้โดยทำรายได้ 159 ล้านเหรียญทั่วโลก จากทุนสร้างเพียง 25 ล้านเหรียญเท่านั้น
เมื่อระบบความมั่นคงถูกแฮ็คจนสายลับในเอ็มไอเซเว่นถูกเปิดโปง นายกหญิงแห่งเกาะอังกฤษ (เอ็มมา ธอมป์สัน) ก็จำใจในระดับกล้ำกลืนฝืนทนเรียกตัว จอห์นนี อิงลิช (โรแวน แอตคินสัน) สายลับเพียงหนึ่งเดียวที่ยังไม่ถูกเปิดโปงมาสืบหาอาชญากรไซเบอร์ก่อนที่โลกจะถูกครอบงำด้วยบิ๊กดาต้าในมือของทรชน โดยมี โอฟีเลีย (โอลกา คูริเลนโก) สายลับสาวสุดร้อนแรงที่ไม่รู้ว่าเป็นมิตรหรือศัตรูคอยเป็นหอกข้างแคร่ในปฏิบัติการที่สายลับแห่งโลกอนาล็อคต้องต่อกรกับวายร้ายยุคใหม่โดยมีอินเตอร์เน็ตและความมั่นคงเป็นเดิมพัน การกลับมาของสายลับจำเป็นอย่าง จอห์นนี่ อิงลิช เป็นครั้งที่ 3 ทิ้งห่างจาก Johnny English Reborn (2011) ภาคที่แล้วเพียง 7 ปีเท่านั้น แต่หนังยังคงมาในสูตรเดิมทั้งพล็อตที่่ต้องเริ่มจาก จอห์นนี่ อิงลิช คือสายลับที่ไม่มีใครต้องการแต่กลับกลายเป็นความหวังเดียวของอังกฤษที่คอยแต่จะสร้างปัญหาปวดหัวให้ทางการก่อนจะแก้ไขสถานการณ์ให้โลกสงบสุขได้แบบฟลุ๊คๆ ซึ่งโดยโครงเรื่องแล้วก็แทบไม่ต่างจากทั้ง 2 ภาคที่ผ่านมา
| ประเภทหนัง | Spy,action,comedy |
| กำกับโดย | เดวิด เคอร์ |
| บทภาพยนตร์โดย | วิลเลียม เดวีส์ |
| ถือลิขสิทธิ์และสร้างโดย | Universal Pictures |
| คะแนน IMDb | 6.2 |
ที่เป็นการเล่นตลกท่าทางกึ่งวันแมนโชว์ของ โรแวน แอตคินสัน ที่เน้นเอาความเปิ่นความเฟอะฟะเกินจะเป็นสายลับได้มาสร้างเสียงหัวเราะให้คนดูได้หายคิดถึง มิสเตอร์บีน ซึ่งโรแวนก็ไม่ทำให้ผิดหวัง หลายมุกที่เหมือนจะไม่รอดพอได้จังหวะการเล่นตลกท่าทาง (comedy of manner) อันเป็นเอกลักษณ์ของเขาช่วยไว้ก็ทำให้คนดูได้ก๊ากดังๆได้หลายครืนอยู่นะ แต่สิ่งที่ภาคนี้ดูจะเน้นเป็นพิเศษคือการให้จอห์นนี่ อิงลิชเป็นตัวแทนสายลับฉบับอนาล็อคผู้ปฏิเสธสมาร์ตโฟนเพราะไม่อยากถูกติดตาม ขับรถแอสตัน มาร์ติน ที่ซดน้ำมันเป็นว่าเล่นแทนรถไฮบริดหรือการเรียกหาแต่แกดเจ็ตสุดล้ำที่เป็นทั้งอาวุธและเครื่องมือเสริมบารมี
ซึ่งไม่ต้องเป็นคอหนังระดับฮาร์ดคอร์ก็คงพอเดาออกว่านี่คือภาพจำมาจากหนังสายลับสุดดังอย่าง เจมส์ บอนด์ โดยเฉพาะยุคอนาล็อคในสมัยฌอน คอนเนอรี หรือ โรเจอร์ มัวร์ รับบทพยัคฆ์ร้ายเจ้าเสน่ห์ในยุคที่ยังไม่มีสมาร์ตโฟนเครื่องเดียวทำได้ทุกอย่างเหมือนทุกวันนี้ ที่ทำให้เกิดแกตเจ็ตเท่ๆมากมายให้คนดูได้บริหารจินตนาการกันมากกว่าแค่จะกลายเป็นหนังขายของ SONY เหมือนหนังเจมส์ บอนด์ยุคหลัง ประหนึ่งจะบอกว่าความล้าสมัยคือความดีงามอย่างหนึ่งของคนอังกฤษอย่าไปตามโลกมันมากนักเลย ให้ภาพนอสทัลเจีย (Nostalgia) รำลึกอดีตอันหอมหวานของหนังสายลับกันแบบโต้งๆเลยทีเดียว
ถ้าพูดถึงตัวหนังแล้ว หนังก็สนุกดีใช้ได้ตามแบบฉบับของ Johnny English เป็นหนังสายลับสุดรั่วที่ดูได้เรื่อยๆ จุดที่ทำให้หนังน่าติดตามก็คือลีลาของ Atkinson แล้วก็บทสมทบของ Miller ขณะเดียวกันดาราเจ้าอื่นก็แสดงกันได้ดี ไม่ว่าจะ Emma Thompson ในบทท่านนายกฯ ที่โวยได้ตลอดเวลา หรือOlga Kurylenko สาวบอนด์ตอน Quantum of Solace ก็มาเป็นสาวอิงลิชในภาคนี้ บทเธออาจไม่เด่นมากแต่ก็พอเหมาะใช้ได้เลย
นักแสดงนำของเรื่อง
โรวัน เซบาสเตียน แอตคินสัน ซีบีอี ( Rowan Sebastian Atkinson CBE) รับบทเป็น จอห์นนี่ อิงลิช
โอลก้า คูรีเลนโก้ ( Olga Kostyantynivna Kurylenko) รับบทเป็น Ophelia Bhuletova
เบน มิลเลอร์ ( Bennet Evan Miller ) เรับบทเป็น Angus Bough
เจค เลซี่ ( Jameson Griffin Lacy) เรับบทเป็น Jason Volta
เอ็มม่า ทอมป์สัน ( Dame Emma Thompson ) รับบทเป็น นายกรัฐมนตรี
ตัวอย่างภาพยนตร์
ไฮไลท์ของหนัง
1. สิ่งแรกที่ขอชมคือดนตรีครับ ผลงานของ Howard Goodall คอมโพเซอร์ที่ทำดนตรีให้ Mr. Bean, The Black Adder ที่มาทำดนตรีให้หนังชุด Johnny เป็นครั้งแรกบอกเลยว่าดนตรีฟังดูมีพลังและเข้ากับจังหวะหนังมาก
2. อีกอย่างหนึ่งที่ชอบในหนังเรื่องนี้ คือหนังหาทางลงให้จอห์นนี่ อิงลิช อย่างที่เราจะรู้แต่ต้นแล้วว่าจอห์นนี่ถูกปลดระวางจากตำแหน่งสายลับ แล้ว และเขาก็ไปทำหน้าที่ครูคอยสอนเด็กๆ แทน ซึ่งส่วนตัวชอบเป็นการปิดฉากที่ดี
3. และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ โรวัน เซบาสเตียน แอตคินสัน ที่ความฮาของเขาก็ยังเป็นอะไรที่ดูกี่ครั้งก็ยังขำได้ทุกครั้งซึ่งเป็นสไตล์ในแบบที่น่าจะไม่มีใครทำได้แบบเขาอีกแล้ว
เอาเป็นว่าใครคิดถึงมุกแบบมิสเตอร์บีนในมาดสายลับก็ไปดูเถอะรับรองไม่ผิดหวังแน่นอน ยิ่งใครเครียดๆนี่เรียกใช้บริการสายลับศูนย์ศูนย์ก๊ากของเราได้เลยรับรองหาย แต่อาจประสบปัญหากรามค้างแทนนะ
ที่มาเพิ่มเติม
en-m-wikipedia-org.translate.goog
