ภาพยนตร์เรื่อง Mortal Enginesเป็นภาพยนตร์แนวไซไฟปี 2018ที่กำกับโดย Christian Rivers ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการร่วมผลิตระหว่างอเมริกาและนิวซีแลนด์ โดยมีฉากอยู่ในโลกหลังหายนะที่เมืองทั้งเมืองถูกติดตั้งบนล้อและขับเคลื่อนด้วยยานยนต์ และได้Rivers ผู้ซึ่งได้รับรางวัลออสการ์สาขาวิชวลเอฟเฟ็กต์ยอดเยี่ยมจากผลงานเรื่อง King Kong ร่วมงานด้วย Mortal Engines ออกฉายทั่วโลกเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018 ในลอนดอนในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เข้าฉายเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 2018 และในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 2018 ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคำวิจารณ์ยกย่องวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ว่าทำออกมาได้ดีมากแต่รายได้นั้นสวนทางกัน หนังทำรายได้ 83.7 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับงบประมาณการสร้างที่ 100–150 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว

เรื่องราวเกิดขึ้นในอนาคตกว่าพันปีหลังจากความขัดแย้งครั้งใหญ่จนเกิดเป็นหายนะที่เรียกว่าสงครามหกสิบนาที มนุษยชาติที่เหลืออยู่รวมกลุ่มกันใหม่และสร้างเมืองเคลื่อนที่ที่เรียกว่า Traction Cities ภายใต้ปรัชญาที่เรียกว่า Municipal Darwinism เมืองที่ใหญ่กว่าจะตามล่าและดูดกลืนเอาทรัพยากรจากเมืองที่เล็กกว่าในพื้นที่ที่ถูกเรียกว่าพื้นที่ล่าสัตว์ใหญ่ ซึ่งมีบริเวณกว่างใหญ่ทั่วทั้งทวีปยุโรป ในทางตรงข้าม การตั้งถิ่นฐานของ กลุ่มต่อต้านการล่าเมือง ได้พัฒนาอารยธรรมทางเลือกซึ่งประกอบด้วย การตั้งถิ่นฐานแบบคงที่ (เมืองดั้งเดิมที่ไม่เคลื่อนที่) ในเอเชียที่นำโดย Shan Guo ซึ่งแต่เดิมมีบรรพุรุษเป็นชาวจีน ได้รับการคุ้มครองโดย กำแพงโล่ เทคโนโลยีโบราณในศตวรรษที่ 21 ลอนดอน ยึดครองเหมืองแร่ขนาดเล็กแห่งบาวาเรียชื่อซาลซาเคนมาได้ และดูดซับประชากรและทรัพยากรภายใต้คำสั่งของนายกเทศมนตรี แมกนัส ทำให้เป็นเมืองที่หน้าหวาดกลัวและเป็นภัยต่อเมืองอื่นอย่างมาก
ประเภทหนัง | แนวไซไฟ |
กำกับโดย | Christian Rivers |
บทภาพยนตร์โดย | Fran WalshPhilippa BoyensPeter Jackson |
ถือลิขสิทธิ์และสร้างโดย | Universal Pictures |
คะแนน IMDb | 6.1 |
ด้วยจินตนาการของผู้เขียน ถือได้ว่ามีศักยภาพพอที่จะเป็นหนังฟอร์มใหญ่ได้ในแบบเดียวกับ The Lord Of The Rings และ The Hobbit เพราะผู้เขียนฟิลลิป รีฟส์ สร้างโลกใหม่ในจินตนาการขึ้นมา เป็นช่วงเวลานับพันปีจากนี้ในอนาคต มนุษย์ล้างผลาญกันเอง จน เหลือประชากรโลกไม่มากนัก ที่เหลือก็สร้างรูปแบบอารยธรรมในการดำรงชีพขึ้นมาใหม่ ด้วยการอาศัยอยู่ในเมืองเคลื่อนที่ เป็นยานพาหนะติดล้อขนาดมหึมา และหัวใจหลักของเรื่องก็อยู่ที่ ลอนดอนเมืองติดล้อที่ใหญ่ที่สุดขนาดกว้างถึง 2 กิโลเมตร และขับเคลื่อนตัวเองและประชากรที่อาศัยอยู่ภายใน ด้วยการกลืนกินเมืองเคลื่อนที่ขนาดเล็ก พอจับเมืองเล็กมาได้ ก็แยกชิ้นส่วนเมืองเล็ก เอาน้ำมันเชื้อเพลิงไปขับเคลื่อนลอนดอน และส่งประชากรที่จับได้ไปเป็นทาส เรื่องราวที่เดินซ้อนกันไปคือความอาฆาตพยาบาทของตัวละครนำ เฮสเตอร์ ชอว์ สาวผู้มีแผลเป็นฉกรรจ์บบนใบหน้า มีเป้าหมายที่จะสังหารแธดดีอุสวาเลนไทน์ ผู้ปกครองระดับสูงของลอนดอน

แต่ก็พลาดท่าเสียโอกาสไป เพราะทอม แนสเวอร์ตี้ ชายหนุ่มนักเก็บสะสมสมบัติในลอนดอนและเทอดทูนในตัวแธดดีอุส เข้ามาขัดขวาง แต่แล้วทั้งคู่ก็โดนแธดดีอุส กำจัดออกไปจากลอนดอน เรื่องราวจากนั้นคือการผจญภัยของเฮสเตอร์ และ ทอม ที่ต้องหนีเอาตัวรอดในโลกยุคเถื่อน แล้วบังเอิญได้เข้าร่วมกับ”หน่วยต่อต้านเมืองเคลื่อนที่” สุดท้ายก็ได้พากันย้อนไปแก้แค้นแธดดีอุสอีกครั้ง ด้วยความที่เป็นหนังภาคแรก ทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏบนจอล้วนเป็นสิ่งแปลกใหม่ ชวนตื่นตา ไม่ว่าจะเป็นลอนดอนเมืองเคลื่อนที่ยักษ์ และฐานทัพของหน่วยต่อต้านกลางอากาศ หุ่นยนต์ และบรรดาคาแรกเตอร์ที่มาพร้อมชุดและภาพลักษณ์ที่แปลกตา ทุก ๆ ส่วนดูพิถีพิถันมีรายละเอียดที่ยิบย่อยในทุกกระเบียดนิ้ว

ตลอด 2 ชั่วโมงของหนัง ก็สอดแทรกฉากแอ็คชั่นเข้ามาเนือง ๆ พอดำเนินมาถึงช่วงท้ายก็เป็นฉากรบกันยาว ๆ ระหว่างหน่วยต่อต้านเคลื่อนที่ กับลอนดอน ฉากนี้อัดแน่นไปด้วยความมันส์ ได้ดูทั้งการต่อสู้ของตัวละครสำคัญบนภาคพื้น และการลุยถล่มลอนดอนของฝูงบินรบ ของหน่วยต่อต้านฯ และการโจมตีด้วยอาวุธร้ายแรงโชว์เทคนิคซีจีกันอย่างดุเดือด
นักแสดงนำของเรื่อง
เฮร่า ฮิลมาร์ ( Hera Hilmarsdóttir ) รับบทเป็น Hester Shaw

โรเบิร์ต ชีแฮน ( Robert Sheehan ) รับบทเป็น Tom Natsworthy

ฮิวโก้ วีฟวิ่ง ( Hugo Wallace Weaving ) รับบทเป็น แธดเดียส วาเลนไทน์

จีแฮ ( Jihae Kim ) เรับบทเป็น Anna Fang

โรแนน ราฟเฟอรี่( Ronan Raftery ) รับบทเป็น Bevis Pod

ตัวอย่างภาพยนตร์
ไฮไลท์ของหนัง
1. Mortal Engines เป็นหนังที่มีความโดดเด่นในเรื่องจินตนาการของผู้เขียน การดีไซส์เมืองต่างๆโดยเฉพาะลอนดอนเมืองเคลื่อนที่ เป็นจุดที่ทำออกมาได้น่าสนใจอย่างมาก
2. การไล่ล่าเมืองเล็กของเมืองที่ใหญ่กว่าที่ถูกนำมาใช้เป็นชื่อเรื่องเสียด้วยซ้ำ ก็ทำออกมาได้หน้าตื่นตาตื่นใจทำให้เราได้ลุ้นไปกับเมืองเล็กๆว่าจะเอาตัวรอดได้ไหม
3. อีกอย่างที่เป็นจุดเด่นมากๆของหนังเรื่องนี้ที่ชอบมากเลยก็คือ ซีจีที่ทำออกมาได้แบบเนียนกริ๊บสมจริงทุกจุดใครได้เห็นก็ต้องชื่นชอบได้อย่างไม่มีอะไรจะไปตำหนิได้เลย

สรุปแล้ว Mortal Engines เป็นหนังแนวไซไฟภาพสวยสมคำร่ำลือ ใครที่ต้องการไปเสพซีจีอลังการ รับรองว่าไม่ผิดหวัง ทางด้านเนื้อเรื่อง แม้ว่าพล็อตจะไม่ได้แปลกใหม่แต่การดำเนินเรื่องคือสนุกและลุ้นตามไปกับตัวละครได้ง่ายๆ มีหลายฉากหลายมุมที่ขยี้ความตื่นเต้นได้ดี ถ้าใครกำลังหาหนังดูสนุกภาพสวยก็ลองไปดูกันได้นะ
ที่มาเพิ่มเติม
en-m-wikipedia-org.translate.goog