มาต่อกันที่ Pacific Rim Uprising ซึ่งเป็นภาพยนตร์สัตว์ประหลาดภาคต่อของหนัง Pacific Rim ปี 2013 เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดขึ้นในปี 2035 สิบปีหลังจากเหตุการณ์ในภาพยนตร์ต้นฉบับ เรื่องราวดังต่อไปนี้ Jake Pentecost ผู้ซึ่งได้รับโอกาสสุดท้ายที่จะใช้ชีวิตตามเส้นทางของพ่อของเขา หลังจากที่ Kaiju อสุรกายทะเลยักษ์ถูกปลดปล่อยกลับมาสู่โลกอีกครั้ง
หนังเล่าเรื่องในปี 2035 สิบปีหลังจาก Battle of the Breach ซึ่งพอร์ทัลที่สร้างโดย Precursors (ที่พวกเขาส่ง Kaiju) กลับไปในช่องมิติและถูกปิดลงอดีตนักบินเยเกอร์ Jake Pentecost ลูกชายของ Stacker Pentecost หาเลี้ยงชีพด้วยการขโมยและ ขายชิ้นส่วนของ Jaeger ในตลาดมืดใน ซานตา โมนิ กาแคลิฟอร์เนีย หลังจากที่เขาติดตามส่วนหนึ่งของแกนพลังงานของเยเกอร์ที่พิการไปยังห้องทำงานลับของอมรา นามานี ผู้คลั่งไคล้เยเกอร์วัย 15 ปี ทั้งคู่ถูกจับกุมโดย Pan-Pacific Defense Corps (PPDC) หลังจากการทะเลาะวิวาทระหว่างเยเกอร์สแครปเปอร์นักบินเดี่ยวขนาดเล็กของอมราและการบังคับใช้กฎหมาย Jaeger พฤศจิกายน Ajax. มาโกะ โมริ พี่สาวบุญธรรมของเจคและวุฒิสมาชิกชาวญี่ปุ่นชักชวนให้เขากลับไปที่ PPDC ในฐานะผู้สอนเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกคุมขัง โดยมีอมราเป็นคนรับสมัคร
| ประเภทหนัง | ไซไฟ,แอคชั่น,ไคจู |
| กำกับโดย | สตีเวน เอส. ดีไนท์ |
| บทภาพยนตร์โดย | สตีเวน เอส. ดีไนท์เอมิลี่ คาร์ไมเคิลคีร่า สไนเดอร์ |
| ถือลิขสิทธิ์และสร้างโดย | Universal Pictures |
| คะแนน IMDb | 5.6 |
เมื่อมาถึง China Shatterdome เจคเริ่มฝึกนักเรียนนายร้อยเยเกอร์กับนาธาน “เนท” แลมเบิร์ต อดีตนักบินร่วมที่ห่างกันไปนาน Nate และ Mako อธิบายว่าโปรแกรม Jaeger ถูกคุกคามโดยโปรแกรมโดรนใหม่ของ Shao Corporation ซึ่งเสนอให้ผลิตโดรน Jaeger จำนวนมากที่พัฒนาโดย Liwen Shao และ Dr. Newton ‘Newt’ Geiszler Mako มีกำหนดส่งการประเมินขั้นสุดท้ายเพื่อพิจารณาการอนุมัติ Jaeger แบบไร้คนขับ ในการประชุมสภา PPDC ในซิดนีย์ แต่ถูก Jaeger จอมวายร้าย Obsidian Fury ฆ่าโดยไม่ตั้งใจ ระหว่างการต่อสู้กับGipsy Avenger, Jake และ Nate’s Jaeger ก่อนที่เธอจะทำได้ การเสียชีวิตของเธอทำให้สภา PPDC อนุญาตและใช้งาน Jaeger แบบไร้คนขับ ทันที
ช่วงเวลาก่อนที่เธอจะเสียชีวิต Mako ได้บอกสถานที่ตั้งของโรงงานผลิตเยเกอร์ที่เลิกใช้แล้วในไซบีเรีย Jake และ Nate เดินทางไปที่นั่นใน Gipsy Avenger แต่ Obsidian Fury ทำลายคอมเพล็กซ์และเข้าร่วมในการต่อสู้ แม้ว่า Obsidian Fury จะได้เปรียบในตอนแรก แต่ Gipsy Avenger ก็สามารถเอาชนะ Jaeger ได้ เมื่อถอดเครื่องปฏิกรณ์ออก พวกเขาพบว่า Obsidian Fury ไม่ได้ถูกควบคุมโดยมนุษย์ แต่ถูกสั่งการโดยสมองรองของ Kaiju ซึ่งจากการทดสอบแสดงให้เห็นว่ามันเกิดขึ้นบนโลก เมื่อ Jaeger แบบไร้คนขับ ไปถึงตำแหน่งของตน ปฏิบัติการนำร่องของพวกมันก็ถูกแย่งชิงโดยสมองของไคจู ที่ถูกโคลนซึ่งติดตั้งไว้บนเครื่องอย่างลับๆ ลูกผสมของไคจู-เยเกอร์โจมตีพร้อมกันทั้งหมด สร้างความเสียหายอย่างหนัก และทำให้เยเกอร์เกือบทั้งหมดสู้ไม่ได้ Newt และ Dr. Hermann Gottlieb พยายามปิดการใช้งาน Jaeger แบบไร้คนขับ แต่ฝ่ายสนับสนุนพบว่าใครอยู่เบื้องหลังการโจมตี เมื่อเขาสั่งให้ลูกผสมไคจู-เยเกอร์ โจมตีเปิดช่องโหว่หลายจุดทั่วขอบมหาสมุทรแปซิฟิก จิตใจของ Newt ถูกครอบงำโดย Precursors ซึ่งสร้างการเชื่อมโยง เมื่อเขาและ Hermann เชื่อมต่อกับสมองของ Kaiju และเผยให้เห็นว่าเขาจริงๆแล้วเข้าก็โดนหลอกใช้ สุดท้ายจะจบแบบไหนต้องไปดู
ใครอยากดูเยเกอร์ตีกับไคจูถล่มเมืองแบบอุลตร้าแมนหรือหนังหุ่นรบก็ดูสนุกเพลินๆได้อยู่ ถ้าไม่เทียบกับภาคก่อนที่มีเสน่ห์ทั้งงานออกแบบ โมเมนต์เท่ห์ๆ ความสมจริงหายไปพอสมควรอ่ะนะ ส่วนบทและการเล่าเรื่องยังธรรมดาไม่ได้โดดเด่นน่าจดจำ เพลงประกอบไม่ติดหูแบบภาคที่แล้ว แต่เอาใจพี่จีนสุดๆ แล้วก็มีปูภาคต่อ ใครจะไปดูก็ไปดูเลยอย่ามัวแต่อ่านรีวิวนะ
นักแสดงนำของเรื่อง
จอห์น โบเยก้า (John Boyega) รับบทเป็น Jake Pentecost
ริงโกะ คิกูจิ ( Kikuchi Rinko) รับบทเป็น มาโกะ โมริ
สกอตต์ อีสต์วูด (Scott Eastwood)รับบทเป็น นาธาน
ไคลี สเปนี ( Cailee Spaeny ) รับบทเป็น Amara Namani
จางจิน ( Max Zhang. ) รับบทเป็น จอมพล Quan Chenglei
ชาร์ลี เดย์ ( Charlie Day ) รับบทเป็น ดร.นิวตัน ไกซเลอร์
เบิร์น กอร์แมน ( Burn Gorman ) รับบทเป็น ดร.ก๊อตลิน
ตัวอย่างภาพยนตร์
ไฮไลท์ของหนัง
1. ก็ถือว่าบทมีความพยายามใส่ความแปลกใหม่เข้าไปมากมาย ทั้งการปูความให้กับตัวละครหลักหน้าใหม่อย่าง เจค เพเทนคอสต์ ที่ได้จอน โบเยก้า จาก Star Wars: Episode VII , Episode VIII มารับบทนำ แถมด้วย ไคลีย์ สแปนีย์ สาวน้อยน่ารักวัย 19 ที่มารับบทเป็น อามารา นามานี่
2. ผู้สร้างคงจะกลัวคนดูเบื่อฉากเยเกอร์สู้กับไคจู ก็เลยเพิ่มฉากเยเกอร์ ต่อสู้กันเองเข้ามา มันดูจะเป็นของน่าเบื่อใน Transformers แต่ยังเป็นของใหม่สำหรับ Pacific Rim อยู่ ก็ถือว่าทำได้สนุกตื่นเต้นดี
3. สามตัวรวมเป็นตัวเดียวขนาดมหึมา ปราบได้ยากเย็นสุด ๆ อันนี้ไม่ได้สปอยล์นะ เพราะในตัวอย่างก็มีให้เห็นแล้ว สุดท้ายที่เพิ่มเข้ามาและช่วยให้สนุกขึ้นมาก
เราจะได้เห็นภาพการต่อสู้ระหว่างหุ่นยักษ์กับสัตว์ประหลาดบนจอหนัง ที่พังบ้านเมืองอย่างวินาศสันตะโรได้สมจริงสมจังแบบนี้ ชื่นชมทีมงานที่บริหารทุนสร้างได้คุ้มค่า หนังใช้ทุนสร้างไป 150 ล้านเหรียญยังไงก็อยากให้ลองไปดูกันค่ะ
ที่มาเพิ่มเติม
en-m-wikipedia-org.translate.goog
