มาถึงคิวอีกหนึ่งผลงานของพระเอกหนุ่มชื่อดังอย่าง คีนูรีฟ Keanu Charles Reeves กับภาพยนตร์เรื่อง Replicas ซึ่งเป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญแนวไซ ไฟที่เข้าฉายในปี 2018 ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของนักประสาทวิทยาศาสตร์ที่ฝ่าฝืนกฎหมายและจริยธรรมทางชีวภาพเพื่อชุบชีวิตสมาชิกในครอบครัวของเขาหลังจากที่พวกเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
ภาพยนตร์เล่าถึง William Foster และ Ed Whittle เป็นนักวิทยาศาสตร์วิจัยด้านชีวการแพทย์ที่ทำงานให้กับ Bionyne Corporation ในเปอร์โตริโก โดยพยายามถ่ายโอนจิตใจของทหารที่เสียชีวิตไปยังหุ่นยนต์ ที่ มีความแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ โดยมีชื่อรหัสว่า Subject 345ซึ่ง Foster เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาสังเคราะห์และการทำระบบประสาทและจิตใจ ในขณะที่ความสามารถพิเศษของ Whittle คือการโคลนมนุษย์ เพื่อการ สืบพันธุ์ ฟอสเตอร์ประสบความสำเร็จในการทำระบบประสาทของทหารและถ่ายโอนไปยังสมองสังเคราะห์ของหุ่นยนต์ แต่การทดลองล้มเหลวเมื่อจิตสำนึกของทหารอัพโหลดไปที่ร่างกายของของหุ่นยนต์ไม่สำเร็จและพังลงไป โจนส์หัวหน้าของฟอสเตอร์เตือนเขาว่าหากเขาไม่สามารถทำให้ Subject 345 ทำงานได้ ผู้ถือหุ้นของบริษัทจะปิดโครงการ ฟอสเตอร์พาโมนาภรรยาของเขาและลูกสามคนโซฟี แมตต์ และโซอี้ไปล่องเรือ แต่ระหว่างทาง ทุกคนยกเว้นวิลเลียมประสบอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิต ด้วยความมุ่งมั่นที่จะชุบชีวิตครอบครัว เขาจึงเกลี้ยกล่อม Ed ให้นำอุปกรณ์ Bionyne ที่จำเป็นต่อการดึงระบบประสาทของครอบครัวมาให้เขาและเพื่อโคลนร่างกายทดแทนให้กับพวกเขา
ประเภทหนัง | ไซไฟ,ระทึกขวัญ |
กำกับโดย | เจฟฟรีย์ แนชมานอฟ |
บทภาพยนตร์โดย | ชาด เซนต์ จอห์นสตีเฟน ฮาเมล |
ถือลิขสิทธิ์และสร้างโดย | เอ็นเตอร์เทนเมนท์ สตูดิโอส์ โมชั่น พิคเจอร์ส |
คะแนน IMDb | 5.5 |
เขาสร้างระบบประสาทของพวกนั้นได้สำเร็จและบอกให้ Whittle ให้นำร่างไป แต่สิ่งสำคัญประการแรกในแผนของเขาปรากฏให้เห็น นั่นคือแคปซูลโคลนที่มีอยู่เพียงสามอันเท่านั้น ทำให้เขาจำเป็นต้องเลือกหนึ่งอันเพื่อให้เขาเลือก Zoe และลบความทรงจำของเธอออกจากระบบประสาทของอีกสามคนที่เหลือ Whittle เริ่มวงจรที่จำเป็นในการสร้างร่างโคลนทดแทนที่สมบูรณ์สำหรับครอบครัวของฟอสเตอร์ และบอกเขาว่าเขามีเวลาเพียงแค่นั้นในการแก้ปัญหาในการรวมระบบประสาทเข้ากับร่างโคลน มิฉะนั้นพวกมันจะเริ่มเสื่อมสภาพตามอายุที่เร็วขึ้นอย่างผิดปกติ
การรวมจิตใจเข้ากับร่างโคลนชีวภาพที่เป็นหุ่นยนต์ ขั้นตอนที่สองของโครงการวิจัย ฟอสเตอร์ถูกบังคับให้ต้องเก็บความลับนี้ไว้ เนื่องจากเขาและวิทเทิลได้ขโมยอุปกรณ์ไบโอนีนมูลค่าหลายล้านดอลลาร์และกำลังจะทำผิดจริยธรรมทางชีวภาพ เขาใช้เวลาสิบเจ็ดวันในการลบหลักฐานการมีอยู่ของ Zoe จากบ้านของเขา และสร้างเรื่องราวปกปิดและอธิบายถึงการที่ครอบครัวของเขาขาดงาน ขาดเรียน เมื่อฟอสเตอร์สังเกตเห็นว่าระบบประสาทส่วนกลางของภรรยามีปฏิกิริยาต่อการสัมผัสของเขา เขาก็ตระหนักว่าตัวอย่างที่ 345 ล้มเหลวเพราะจิตใจไม่มีการเชื่อมต่อกับร่างกายทางชีวภาพด้วยการเต้นของหัวใจและการหายใจ ไม่เป็นไปอย่างที่เขาต้องการ ตอนนี้เขารู้แล้วว่าการถ่ายโอนเข้าสู่ร่างโคลนจะต้องทำอย่างไร และความล้มเหลวของการถ่ายโอนข้อมูลสามารถแก้ไขได้ด้วยการเขียนโปรแกรมจำลองส่วนต่อประสานร่างกายและจิตใจ เขาย้ายจิตใจของคนที่เขารักไปไว้ในร่างโคลนได้สำเร็จ จากนั้นจึงกลับไปทำงานสร้างส่วนต่อประสานกับร่างกายของหุ่นยนต์ และจิตสังเคราะห์ เพื่อที่จะทำให้ร่างหุ่นยนต์มีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง
ฟอสเตอร์จึงใช้วิธีบันทึกจิตใจของเขาเองสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลไปยังหุ่นยนต์ ในขณะเดียวกัน โซฟีฝันร้ายว่าแม่ของเธอเสียชีวิต และโมนาจับได้ว่าฟอสเตอร์ลบความทรงจำของเธอเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ เฟอสเตอร์สารภาพว่าพวกเขาเสียชีวิตในอุบัติเหตุรถชนและฟอสเตอร์ฟื้นคืนชีพพวกเขา และในไม่ช้าครอบครัวก็ค้นพบหลักฐานการมีอยู่ของ Zoe ที่เขาพลาดไป และเขายอมรับว่าเขาไม่สามารถช่วยชีวิต Zoe และลบความทรงจำของพวกเขาเกี่ยวกับเธอได้และเหตุการณ์นี้จะจบอย่างไรอยากให้ลองไปชมกันค่ะ
นักแสดงนำของเรื่อง
คีนูรีฟ ( Keanu Reeves ) รับบทเป็น วิลเลียม ฟอสเตอร์
อลิซ โซเฟีย อีฟ (Alice Eve) รับบทเป็น โมนา ฟอสเตอร์
โทมัส มิดเดิลดิตช์ ( Thomas Middleditch ) รับบทเป็น เอ็ด วิธเทิล
จอห์น ออ ร์ติซ ( John Ortiz ) รับบทเป็น โจนส์
เอมเจย์ แอนโทนี ( Emjay Anthony) รับบทเป็น Matt Foster
ตัวอย่างภาพยนตร์
ไฮไลท์ของหนัง
1. การโคลนนิ่งที่ผิดศีลธรรม การที่เราไม่ต้องสูญเสียคนที่รักไปมันไม่ผิด เพราะไม่มีใครอยากสูญเสียคนที่รักไป แต่ถ้าลองมองมาที่ความรู้สึกและจิตใจของคนที่ฟื้นขึ้นมาจะเป็นยังไง
2. ความรู้วิทยาศาสตร์ ด้วยความที่หนังคือวิทยาศาสตร์หนักมาก สิ่งที่เราจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมคือคำศัพท์วิทยาศาสตร์ที่น่าสนใจ แม้ว่าจะเข้าใจยากไปหน่อย แต่ก็ถือว่าได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ
3. งานของภาพและ CG ทำออกมาได้ไม่ธรรมดา ส่วนมากหนังจะใช้ฉากและสเกลหนังในห้องแล็ปวิทยาศาสตร์มากกว่า ฉากAction ฉากใหญ่ ส่วนตัวชอบหุ่นยนต์ซึ่งเป็นฟีเจอร์ประกอบของเรื่องมากเลย
หนังมีพล็อตที่น่าสนใจพอสมควร แถมการเดินเรื่องก็ดีซะด้วยไม่น่าเบื่อและไม่อืดอาด แต่ติดอยู่อย่างเดียวคือคำศัพท์ที่เข้าใจยากจนอาจจะลดอรรถรสของหนังไปบ้าง แต่โดยรวมโอเคมากเลยค่ะ
ที่มาเพิ่มเติม
en-m-wikipedia-org.translate.goog