ภาพยนตร์เรื่อง Tangled หรือที่เรารู้จักกันในชื่อไทย ราพันเซล เจ้าหญิงผมยาวกับโจรซ่าจอมแสบ เป็นภาพยนตร์คอมพิวเตอร์แอนิเมชั่น 3 มิติ เรื่องที่ 50 ของดิสนีย์ ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดยนาธาน เกรโนและไบรอน ฮาวเวิร์ด เป็นเรื่องราวของราพันเซล เจ้าหญิงสาวที่สาบสูญซึ่งมีผมสีบลอนด์ยาววิเศษผู้ปรารถนาจะออกจากหอคอยอันเงียบสงบของเธอ เธอยอมรับความช่วยเหลือจากผู้บุกรุกที่จะพาเธอออกไปสู่โลกที่เธอไม่เคยเห็น เดิมชื่อภาษาอังกฤษของภาพยนตร์นี้คือ Rapunzel แต่ก่อนออกฉายเล็กน้อยได้เปลี่ยนเป็น Tangled ภาพยนตร์นี้ฉายในโรงภาพยนตร์ระบบสามมิติเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2553 ส่วนในประเทศไทย ฉายเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2554 นอกจากนี้เคยทำเป็นภาพยนตร์แอนิเมชัน บาร์บี้ ในชื่อตอนว่า Barbie as Rapunzel (บาร์บี้ เจ้าหญิงราพันเซล) เมื่อปี 2089 สร้างโดย แมทเทล และ ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ อินเตอร์เนชันแนล การจัดสร้างภาพยนตร์ใช้เวลาถึงหกปี และแอลเอไทมส์รายงานว่า ใช้ทุนไปราว ๆ สองร้อยหกสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่ใช้จ่ายเงินไปมากที่สุดทีเดียว
หนังเล่าเรื่องราวของหยาดแสงอาทิตย์หยาดหนึ่งตกลงสู่พื้นโลก และงอกงามขึ้นเป็นดอกไม้เรืองแสงประกอบด้วยสรรพคุณเยียวยาความป่วยเจ็บ หญิงชรานางหนึ่งชื่อว่า “กอเธล” พบเจอเข้า จึงใช้ดอกไม้นั้นเพื่อคงความเยาว์วัยดุจหญิงสาวของตนเอง โดยวิธีร้องเพลงมนตร์แก่ดอกไม้นั้นว่า “บุปผาเรืองแสงส่อง เปล่งฤทธาของเจ้า ช่วยย้อนวันให้เรา คืนสิ่งที่เคยได้ครอง” นางนำสุ่มมาครอบดอกไม้นั้นเพื่อเก็บไว้ใช้แต่ผู้เดียว หลายร้อยปีผ่านไป เกิดมีอาณาจักรขึ้นบริเวณนั้น ราชินีอันเป็นที่รักแห่งอาณาจักรดังกล่าวประชวรขณะใกล้ให้ประสูติกาล ทหารและพลเมืองช่วยกันค้นหาวิธีแก้ไข และพบดอกไม้นั้นเข้าโดยบังเอิญ ราชินีทรงได้รับการรักษา และมีประสูติกาลแก่ธิดาพระนามว่า “ราพันเซล” ผู้มีเกศางามดังทอง และบัดนี้ เกศาของพระธิดากลายเป็นแหล่งสรรพคุณวิเศษของดอกไม้นั้นแทน ในคืนนั้น กอเธลลักพาพระธิดาไปซ่อนไว้ในหอคอยสูงกลางป่า แล้วเลี้ยงดูประดุจบุตรในอุทร เพื่อใช้ผมของราพันเซลช่วยให้ตนเองคงความเยาว์วัยต่อไป
ประเภทหนัง | Comedy, drama |
กำกับโดย | นาธาน เกรโน่ไบรอน ฮาวเวิร์ด |
บทภาพยนตร์โดย | แดน โฟเกลแมน |
ถือลิขสิทธิ์และสร้างโดย | วอลต์ดิสนีย์พิกเชอส์วอลต์ดิสนีย์แอนิเมชันสตูดิโอส์ |
คะแนน IMDb | 8.2 |
นางทราบดีว่า ถ้าตัดผมของราพันเซลออก ผมนั้นจะเสื่อมสรรพคุณ และเปลี่ยนจากสีทองเป็นสีน้ำตาลทันที ดังนั้น นางจึงปล่อยให้เกศาของราพันเซลยาวโดยมิได้ตัดเลย และมิให้ราพันเซลออกนอกหอคอยเลย ทั้งนี้ ทุก ๆ ปี ในวันคล้ายวันประสูติราพันเซล พระราชาและราษฎรของพระองค์จะปล่อยโคมลอยนับแสนดวงขึ้นสู่ฟ้า พวกเขาหวังว่าโคมลอยจะนำพาพระธิดาของพวกเขากลับมาอีกครั้ง ในวันก่อนวันคล้ายวันประสูติปีที่สิบแปดของราพันเซล เธอขอให้กอเธลอนุญาตให้เธอออกไปดูโคมลอยนอกหอคอย แต่กอเธลไม่อนุญาต และให้สาเหตุว่า โลกภายนอกมีแต่ภยันตรายและความชั่ว
ขณะเดียวกัน กลุ่มโจรกลุ่มหนึ่ง นำโดย ฟลิน ไรเดอร์ ชายหนุ่มรูปงาม ได้ขโมยศิราภรณ์ของเจ้าหญิงผู้หายสาบสูญนั้นไปจากพระราชวัง ระหว่างที่เหล่าองครักษ์ไล่ตามกลุ่มโจรอย่างติดพันนั้น แม็กซิมัส ม้าของหัวหน้าองครักษ์ คลาดจากกลุ่มโดยไม่มีผู้ขี่ ม้าแม็กซิมัสจึงออกตามล่าฟลินเอง ในเวลานั้น ฟลินหลอกเอาศิราภรณ์ไปจากเพื่อนร่วมกลุ่ม แล้วหนีขึ้นไปซ่อนตัวที่หอคอยของราพันเซลซึ่งเขาพบโดยบังเอิญ แต่เขาถูกราพันเซลฟาดด้วยกระทะจนสลบไป เธอซ่อนเขาไว้ในตู้เสื้อผ้าของเธอ แล้วริบศิราภรณ์ไว้ เมื่อกอเธลกลับมา ราพันเซลขอให้นางไปเก็บเปลือกหอยมาให้เป็นของขวัญวันเกิดเพื่อนำมาทำสีระบายภาพ กอเธลยอมใช้เวลาเดินทางสามวันไปเอาของขวัญมาให้
Tangled เป็นหนังที่ดูเมื่อไหร่ก็มีความสุขทุกครั้ง ฉากที่ชอบที่สุดในเรื่องมีหลายฉากหลายตอนมาก เช่นฉากในร้านยาดอง ที่ราพันเชลโดนยูจีนลากเข้ามาหวังที่จะให้ผู้ชายกลัดมันในร้านทำให้ราพันเชลกลัว เพื่อที่จะนำเธอกลับไปบนหอคอย แต่ที่ไหนได้ ยูจีนมันโง่ ไม่รู้อะไรเลยว่าผู้ชาย ส่วนมาก ในโลกนี้ถูกสร้างมาเพื่อยอมแพ้ความน่ารักและขี้อ้อนของเพศสตรี
ผู้ให้เสียงตัวละครนำของเรื่อง
อะมานดา ลีจ “แมนดี” มัวร์ ( Amanda Leigh “Mandy” Moore ) ให้เสียงเป็นเป็น ราพันเซล
แซคารี ลีวาย พิว ( Zachary Levi Pugh ) ให้เสียงเป็น ยูจีน ฟิตซ์เฮอร์เบิร์ต
ดอนน่า เมอร์ฟี่ ( Donna Murphy ) ให้เสียงเป็น มาเธอร์ กอเธล
แบรด การ์เร็ต ( Bradley Henry Gerstenfeld ) ให้เสียงเป็น โจรมือตะขอ
รอน เพิร์ลแมน ( Ronald Perlman ) ให้เสียงเป็น พี่ชายของสแต็บบิงตัน
ตัวอย่างภาพยนตร์
ไฮไลท์ของหนัง
1. การเขียนบท ถือว่า ทำได้ดีสำหรับเกลี่ยให้ทุกตัวมีบทบาทที่ทำให้เรื่องดำเนินไป ไม่ว่าจะพวกกลุ่มโจรที่คิดเอาคืน Flynn หรือแม่จอมปลอมผู้ใจร้าย Gothel ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวละครที่เป็นสัตว์
2.ในหนังเรื่องนี้จะมีเนื้อเรื่องส่งเสริมเรื่องมิตรภาพเป็นหลัก อย่างเช่นเรื่องราวระหว่างดอรี่และมาร์ลิน ที่แม้จะไม่ได้รู้จักกันอย่างสนิทสนมแต่ก็ให้การช่วยเหลือกันและกันอย่างจริงใจ และมีมิตรภาพที่ดีต่อกันมาเสมอ
3. ในหนังยังสอดแทรกข้อคิดดีๆอย่างภาพลักษณ์ที่ฉาบไว้ภายนอก ไม่อาจบอกให้ล่วงรู้ถึงสิ่งที่อยู่ในใจได้ทั้งหมด กาลเวลาไม่ได้ช่วยบอก แต่กาลเวลาเป็นแค่ตัวช่วยที่ทำให้เราได้รู้บางสิ่งในสักวัน
สรุปได้เลยว่าถ้าใครยังไม่เคยดู อยากให้ลองหามาดูสักครั้ง มีลูกเปิดดูกับลูก มีแฟนเปิดดูกับแฟน รับรองเป็นหนังที่สร้างความสุขและรอยยิ้มได้มากล้นจริงๆ
ที่มาเพิ่มเติม
en-m-wikipedia-org.translate.goog