The Hunger Game เป็นวรรณกรรมอีกเรื่องที่ได้รับความนิยมอย่างมาก จนเมื่อรู้ว่ามีการมาทำเป็นภาพยนตร์ ก็ถึงกับต้องรีบหาเวลามาดูกันเลยทีเดียว The Hunger Game ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี ค.ศ. 2012 แนวแอ็คชั่นดราม่ารูปแบบนิยายวิทยาศาสตร์และใช้ชื่อไทยว่า เกมล่าเกม และภาพยนตร์ชุดนี้ทำสถิติบ็อกซ์ออฟฟิศอันดับสามในช่วงสุดสัปดาห์เปิดตัวนับตั้งแต่ภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เคยมีมา 155 ล้านดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย
หนังเล่าถึงยุคที่สงครามทำให้โลกกลายเป็นยุคมืดอีกครั้ง ทั้ง 12 เขตเมืองตกอยู่ภายใต้การปกครองของ “แคปปิตอล” ที่ดูเหมือนเป็นองค์กร ที่กำหนดให้ทั้ง 12 เขตที่เป็นเมืองขึ้น จะต้องส่งเด็กผู้หญิงหนึ่งและเด็กผู้ชายหนึ่ง เข้าร่วม Hunger Games ที่มีกฎง่าย ๆ คือให้เด็กทั้ง 24 คนต่อสู้กันโดยถ่ายอดผ่านทางทีวี จนกว่าจะมีผู้รอดเพียงคนเดียว แคตนิส เอฟเวอร์ดีน เด็กสาววัย 16 ปี อาศัยอยู่ในเขต 12 ที่แร้นแค้น เธอเป็นเสาหลักให้ครอบครัวนับตั้งแต่พ่อตาย คอยหาอาหารประทังแม่กับน้องสาว ในวันเก็บเกี่ยว ก่อนเกมล่าชีวิตครั้งที่ 74 พริมโรส เอฟเวอร์ดีน น้องสาวของแคตนิสถูกจับชื่อเป็นบรรณาการหญิงของเขต 12 ซึ่งแคตนิสเองก็อาสาแทนพริมเนื่องจากไม่ต้องการให้เธอตายในสนามประลอง และบรรณาการชายของเขต 12 ก็ตกเป็นของ พีต้า เมลลาร์ก ลูกชายร้านขนมปังที่เคยช่วยชีวิตแคตนิสไว้ในตอนที่เธอเกือบจะอดตาย แคตนิสล่ำลาครอบครัวและออกเดินทางออกจากเขต 12 ตรงสู่แคปปิตอลเพื่อเข้าแข่งเกมล่าชีวิตทันที แคตนิสและพีต้าต้องเข้าพบกับพี่เลี้ยงเขต 12 ซึ่งก็คือ เฮย์มิช อาเบอร์นาธี ผู้ชนะเพียงคนเดียวของเขต 12 จากเกมล่าชีวิตครั้งที่ 50 ซึ่งแคตนิสก็ไม่ถูกชะตากับเฮย์มิชเท่าไรนัก เมื่อถึงแคปปิตอลทั้งสองเข้าพบกับทีมสไตล์ลิส ที่นำโดยซินน่า เพื่อแปลงโฉมให้ทั้งสองเป็นที่สนใจและดึงดูดแก่เหล่าสปอนเซอร์ที่จะส่งของมาช่วยเหลือในสนามประลองได้ และผลก็เป็นดังคาด เขต 12 ได้รับการจับตามองจากผู้ชมอย่างล้นหลาม
ประเภทหนัง | แอ็คชั่นดราม่า,นิยายวิทยาศาสตร์ |
กำกับโดย | แกรี รอสส์ |
บทภาพยนตร์โดย | แกรี รอสส์,ซูซาน คอลลินส์ ,บิลลี่ เรย์ |
ถือลิขสิทธิ์และสร้างโดย | ไลออนส์เกทคัลเลอร์ฟอร์ซ |
คะแนน IMDb | 7.2 |
ในการฝึกซ้อมแคตนิสและพีต้าสามารถทำผลงานได้ดี จนทำให้ทุกสายตาของแคปปิตอลจับจ้องไปยังพวกเขาทั้งคู่ และในวันสัมภาษณ์ก่อนการแข่งขันพีต้า ให้สัมภาษณ์กับพิธีกรว่า เขามาแข่งครั้งนี้พร้อมกับคนที่เขาหลงรัก นั่นก็คือแคตนิส ทำให้ผู้ชมเริ่มเห็นใจและเทคะแนนให้เขต 12 มากขึ้น แต่แคตนิสกลับมองว่าพีต้าทำเพื่อตัวเองเสียมากกว่า ในวันแข่งขัน สนามประลองถูกออกแบบให้เป็นป่าขนาดใหญ่ มีทุ่งอยู่ตรงกลาง พร้อมกับคอร์นูโคเปีย ที่รวบรวมอาวุธและข้าวของเครื่องใช้ให้บรรณาการมาแย่งกัน บรรณาการทั้ง 24 คนถูกปล่อยตัว และการแข่งขันจึงเริ่มต้น เพียงแค่ในวันแรกบรรณาการเขตต่างๆถูกฆ่าตายไปกว่าครึ่งนึงที่คอร์นูโคเปีย ส่วนแคตนิสใช้วิธีหนีออกห่างบรรณาการคนอื่นๆให้ไกลที่สุด แต่เธอถูกไฟป่าที่แคปปิตอลสร้างขึ้นไล่ต้อนจนทำให้บาดเจ็บสาหัส
แคตนิสได้รับความช่วยเหลือจากสปอนเซอร์ที่เฮย์มิสหามาให้ เธอได้รับเป็นยาทาแผล ทำให้สามารถรอดจากบาดแผลไฟไหม้ได้ แต่แล้วแคตนิสกลับต้องเข้าตาจนเมื่อต้องพบกับเหล่า”มืออาชีพ” ซึ่งก็คือกลุ่มบรรณาการที่แข็งแกร่งจับกลุ่มกันออกล่าบรรณาการคนอื่น ๆ ซึ่งในกลุ่มของมืออาชีพก็มีพีต้าอยู่ด้วย และเหตุการต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรคงต้องลองไปหามาชมกันนะคะ
หนังเดินเรื่องโดยเน้นไปที่ตัวละครในเขต 12 ที่ชื่อ แคทนิส เอฟเวอร์ดีน สาวแกร่งที่ขอเป็นตัวแทนในการเข้าแข่งขันแทนน้องสาวของเธอ (เป็นพี่สาวที่ดีมาก) กับพีต้า เมลเลิร์กซึ่งทั้งสองเป็นตัวแทนของเขตที่มีฐานะยากจนและความเป็นอยู่ที่แสนยากลำบาก หนังมีการทำและดัดแปลงมาจากหนังสือนวนิยาย แต่หนังก็ยังคงเข้มข้น ไม่รู้สึกว่าอะไรขาดหายไป เล่าเรื่องราวอย่างกระชับ เรียกได้ว่าถ้าไม่อ่านหนังสือมา ก็ได้รับรู้เรื่องราวแทบจะเทียบเท่ากับอ่านหนังสือ
นักแสดงนำของเรื่อง
เจนนิเฟอร์ ชเรเดอร์ ลอว์เรนซ์ ( Jennifer Shrader Lawrence) รับบทเป็น แคตนิส เอฟเวอร์ดีน
โจชัว ไรอัน ฮัทเชอร์สัน (Joshua Ryan Hutcherson) รับบทเป็น พีต้า เมลลาร์ก
เลียม เฮมส์เวิร์ท ( Liam Hemsworth ) รับบทเป็น เกล ฮอว์ธอร์น
วูดโรว์ เทรซี แฮร์เรลสัน (Woodrow Tracy Harrelson) รับบทเป็น เฮย์มิช อาเบอร์นาธี
สแตนลีย์ ทุชชี จูเนียร์ (Stanley Tucci, Jr.) รับบทเป็น ซีซาร์ ฟลิกเคอร์แมน
ตัวอย่างภาพยนตร์
ไฮไลท์ของหนัง
1. ความเสียสละของคนเป็นพี่ เพราะว่าการที่เป็นคนที่ถูกเลือกให้ไปแข่งเกมส์ อาจไม่มีชีวิตรอดกลับมา ทำให้หัวอกของคนเป็นพี่สาว ทนไม่ได้ ต้องลงไปอาสาขาแข่งเอง เพื่อความปลอดภัยของน้องสาว
2. แค่อยากมีชีวิตรอด ส่วนตัวมองที่นางเอกมีเป้าหมาย มุ่งเน้นไปที่การต่อสู้เป็นหลัก ไม่ได้หมายความว่าเธออยากฆ่าใคร แต่เธอแค่ต้องการมีชีวิตรอดไปดูแลครอบครัวของเธอ และรอดพ้นจากเงื่อนไขอันชั่วร้ายของพวกแคปิตอลนั่นเอง
3. หนังมีจุดแข็งตรงที่เรื่องราวของหนังค่อนข้างกระชับ พรีเซนต์บุคลิกของตัวละคร ทำให้คนดูรู้จักนิสัยใจคอของตัวละคร แต่สิ่งที่โดดเด่นสุด น่าจะเป็นการแต่งกาย เครื่องแต่งกายที่มีความเป็นเอกลักษณ์
ด้วยความที่หนังดำเนินเรื่องกระชับ และนำเนื้อหาอ้างอิงมาจากนวนิยาย จึงทำให้คนดูรู้ได้อย่างอัตโนมัติว่า ภาค 2 มาแน่นอนจ้า และแน่นอนว่าต้องไม่พลาดกับหนังที่บทดีเยี่ยมขนาดนี้
ที่มาเพิ่มเติม
th.wikipedia.org