Transformers : Dark of the moon เป็นภาพยนตร์ภาคต่อลำดับที่ 3 ของหนังหุ่นยนต์ต่างดาว Transformers แนวแอคชั่น ไซไฟ แฟนตาซี ที่หลายคนตั้งตารอคอย และหนังภาคนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ พบกับการรีวิวหนังสนุกๆ ที่น่าติดตามกับเราได้เสมอ วันนี้เราหยิบยกเรื่องทรานส์ฟอร์เมอร์ส ดาร์กออฟเดอะมูน มารีวิว เป็นหนังที่เข้าฉายเมื่อปี 2011 หลังจากภาค 1 เข้าฉายเมื่อปี 2007 และภาค 2 เข้าฉายเมื่อปี 2009 ไล่ลำดับห่างกันภาคละ 2 ปี และเป็นภาพยนตร์ที่สร้างออกมาได้ดีทุกภาค โดยภาคนี้ความสนุกสูสีกับภาคแรกเลยทีเดียว ซึ่งยังได้ผู้กำกับคนเก่งคนเดิมอย่าง ไมเคิล เบย์ มาสร้างภาพยนตร์ภาคต่อ ยังมีผู้อำนวยการสร้างโดย สตีเวน สปีลเบิร์ก ผู้ฝากผลงานที่โด่งดังไว้มากมาย ส่วนทีมนักแสดงนั้น ยังได้ ไชอา ลาบัฟ รับบทเป็น แซม วิทวิคกี้ พระเอกคนเดิม โรซี่ ฮันทิงตัน-ไวท์ลีย์ รับบทเป็น คาร์ลี่ สเปนเซอร์ แฟนใหม่ของแซม, จอช เดอเมล รับบทเป็น กัปตันวิลเลี่ยม เลนน็อกซ์, ไทรีส กิบสัน รับบทเป็น โรเบิร์ต เอ็ปป์ส, จอห์น เทอร์ทูร์โร รับบทเป็น เจ้าหน้าที่ซิมม่อน และนักแสดงอีกหลายๆ ท่านที่ไม่ได้กล่าวถึง ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้คะแนนรีวิวจากเว็บไซต์รีวิวหนังมากมายไว้ดีมาก เรียกได้ว่าเสียงตอบรับดีกว่าภาคที่ผ่านมาเมื่อปี 2009 อย่างเห็นได้ชัด หลังได้รับชมแอดมินยังคงรู้สึกสนุกเหมือนอย่างเคย หนังทำออกมาได้คุณภาพสม่ำเสมอ และแม้จะเป็นหนังเก่าแต่ยังคงเป็นหนังที่น่ารับชมในปี 2021 อยู่ หากใครยังไม่เคยรับชมก็สามารถไปหาดูได้ตั้งแต่ภาค 1 ดูกันเพลินๆ ยาวๆ เพราะแต่ละภาคความยาวประมาณสองชั่วโมงครึ่ง ตาแฉะเป็นแน่แท้ท่านผู้ชม !!
นักแสดงนำ
ไชอา ลาบัฟ
โรซี่ ฮันทิงตัน-ไวท์ลีย์
ประเภทภาพยนตร์ : Action, Adventure, Sci-Fi
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Michael Bay
ผู้เขียนบทภาพยนตร์ : Roberto Orci, Alex Kurtzman, Ehren Kruger
ค่ายหนัง : Paramount Picture
คะแนนจากเว็บไซต์ IMDb : 6.2
เรื่องย่อ
ในปี ค.ศ.1961 ยานอวกาศ ดิ อาร์ค ลำใหญ่ได้พุ่งชนดวงจันทร์ โดยเกิดจากการปะทะกันของหุ่นยนต์สองสายพันธุ์ และภายในยานได้นำสิ่งประดิษฐ์บางอย่างมาด้วย และผลจากการพุ่งชนได้ส่งสัญญาณอะไรบางอย่างมายังโลก องค์กรนาซ่าที่เป็นผู้ตรวจเจอ และต่อมาประธานาธิบดี จอร์น เอฟ.เคนเนดี ได้มีคำสั่งให้ส่งนักบินอวกาศขึ้นไปสำรวจบนดวงจันทร์เป็นครั้งแรก ในอีก 8 ปีต่อมา ลูกเรือของยานอะพอลโล 11 จึงได้เหยียบบนพื้นดวงจันทร์เป็นคนแรก สร้างประวัติศาสตร์ให้โลก และเหล่านักบินอวกาศได้ค้นพบอะไรบางอย่าง
ปัจจุบัน เหล่าออโต้บอทได้ร่วมมือกับกองทหารของสหรัฐอเมริกา เพื่อกำจัดเหล่าดิเซปติคอนที่ยังคงเหลืออยู่ทั่วโลก รวมถึงภารกิจตามหาเทคโนโลยีต่างดาวที่ถูกซ่อนไว้ในโลกด้วย ต่อมาฝั่งออโต้บอทรู้ว่าหุ่นยนต์ฝ่ายดิเซปติคอนยังคงมีชีวิตรอดจากการพุ่งชนยานบนดวงจันทร์ จึงออกตามหาและทำลายชิ้นส่วนของเดอะอาร์ค จนได้พบกับบรรพบุรุษของออพติมัส ไพรม์ นามว่า เซนติเนล ไพรม์ ที่สิ้นชีพและเสาพลังงานทั้ง 5 ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเคลื่อนย้ายอะไรบางอย่างไปมาระหว่างโลกกับอวกาศ ออพติมัลไพรม์ ได้ทำการคืนชีพให้กับ เซนติเนล ด้วยเมกทริกซ์
ทางด้านของแซม หลังจบจากมหาวิทยาลัยแซมกำลังเข้าสมัครงานหลายที่ และได้รับการช่วยเหลือจากหัวหน้าของ คาร์ดี้ สเปนเซอร์ ซึ่งเป็นแฟนใหม่ของแซม ให้เข้าทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง และในบริษัทนั้น แซมได้พบเจอเพื่อนใหม่และได้พูดคุยเกี่ยวกับยาน ดิ อาร์ค หลังจากนั้นเพื่อนใหม่ของแซมก็ถูกฆ่าโดยหุ่นยนต์สังหารโดยถูกทำให้ตกตึกให้เหมือนกับเป็นอุบัติเหตุ แต่แซมก็ถูกเจ้าหุ่นสังหารตัวนี้ไล่ล่าเช่นกัน จึงพยายามติดต่อกับเจ้าหน้าที่ซิมมอนส์เพื่อทำการไขข้อสงสัยต่างๆ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ต้องไปรับชมกันนะคะ เพราะเรื่องนี้ทำออกมาได้ดี มีที่มาที่ไปยังคงรับชมแล้วรู้สึกเพลิดเพลิน ลุ้นไปกับสถานการณ์ต่างๆ และมีหุ่นยนต์ตัวร้ายนามว่า ช็อคเวฟ เพิ่มเข้ามา
ควรค่าแก่การรับชมหรือไม่ ก็ขอบอกเลยว่าสนุกตื่นเต้นสมการรอคอย หลังจากผิดหวังกับภาคที่แล้วไปนิดหน่อย ซึ่งมาให้ภาคนี้ผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างออกมาเคลมว่าได้ทำการบ้านมาอย่างดีเพื่อแก้ตัว แล้วก็ทำออกมาได้ดีจริง ฉากหลังเป็นการแข่งขันทางอวกาศระหว่างสหภาพโซเวียตและสหรัฐอเมริกา ซึ่งบ่งบอกว่าเหล่าทรานส์ฟอร์เมอร์สได้อยู่มานานแล้วหลายทศวรรษ ข้อดีของหนังเรื่องนี้ยังคงเป็นเรื่องของความมันส์ ยังคงใส่เต็มจัดให้กระหึ่มเช่นเดียวกับภาคที่ผ่านๆมา ยิ่งช่วงกลางเรื่องไปจนถึงท้ายเรื่องหนังยิ่งเพิ่มพูนความสนุกขึ้นไปเรื่อยๆ ฉากแอคชั่นและหุ่นยนต์รบมีมากขึ้น ทั้งยานอวกาศทั้งหุ่นยนต์ที่เหมือนหนอน ไชไปตามพื้นและตึก สร้างความลุ้นระทึกจัดหนักให้เหล่าคนดูได้ดีทีเดียว แม้ว่าตอนจบตัวร้ายจะตายง่ายไปหน่อยแบบงงๆ ก็เถอะ
ดารานักแสดงเล่นดีค่ะ เรื่องนี้ได้นางเอกใหม่อย่าง ไวท์ลี่ ก็ถือว่าสวยและฮ็อตไม่เบา มารับบทที่สำคัญและแสดงออกมาได้ดีมาก ฉากแอคชั่นบู๊แหลก เสียงตู้มต้ามเช่นเคย ปืนเล็ก ปืนใหญ่ ระเบิด จรวด ยกทัพมาให้หมด เพลงประกอบก็ดี การดำเนินเรื่องดี แม้จะยืดสักหน่อยช่วงต้นเรื่อง มีการสอดแทรกมุกตลกมาให้ตลอดเรื่องสลับกันฉากแอคชั่น ควรค่าแก่การรับชมมากๆ
บทส่งท้าย
แอดมินให้คะแนน 9/10 เลยกับฉากแอคชั่นซึ่งทำให้ลืมข้อด้อยของหนังไปหมด จัดให้เป็นหนังน่าดูที่ยังสามารถรับชมได้ในปี 2021 เอฟเฟคเนียนตาและเทคนิคต่างๆ เทียบเท่าหนังบางเรื่องในปี 2021 ได้เลย
ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน เพราะเรารีวิวหนังสนุกให้ทุกท่านได้รู้ก่อนรับชม เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ หากใครมาสายแอคชั่นไซไฟ แฟนตาซี หนังเรื่องนี้ตอบโจทย์จินตนาการของท่านแน่นอน ในภาพยนตร์เรื่อง Transformers : Dark of the moon สำหรับวันนี้แอดมินขอลาไปก่อนแล้วพบกันใหม่กับการรีวิวหนังปี 2021 ที่น่าติดตามได้ในเรื่องต่อไป สวัสดีค่ะ
รับชมตัวอย่างภาพยนตร์ได้ที่
https://www.youtube.com/watch?v=XeUtb5L9iNE
ที่มา th.wikipedia.org, pantip.com, patsonic.com