ภาพยนตร์ Transformers : Dark of the moon เป็นภาพยนตร์ภาคต่อลำดับที่ 3 ของหนังหุ่นยนต์ต่างดาว Transformers แนวแอคชั่น ไซไฟ แฟนตาซี ที่หลายคนตั้งตารอคอย ซึ่งมีต้นแบบมาจากหุ่นยนต์ของเล่นชุดทรานส์ฟอร์เมอร์สที่สามารถแปลงร่างได้ เหมือนกันกับสองภาคก่อนหน้า ซึ่งเป็นเนื้อเรื่องที่ต่อมาภายหลัง 3 ปี ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 3 ได้รับการกำกับโดยไมเคิล เบย์ และได้ สตีเวน สปีลเบิร์กเป็นผู้อำนวยการบริหาร ทรานส์ฟอร์เมอร์สภาคนี้เป็นภาพยนตร์ภาคสุดท้ายที่ ทาคาร่า ทอมมี่ (Takara Tomy) เป็นเจ้าของ และ ฮาสโบร์ว (Hasbro) เป็นผู้ออกแบบตัวละครหุ่นยนต์ในภาพยนตร์อีกด้วย
หนังเล่าเรื่องในปี คริสต์ศักราช 1961 ยานบิน ดิ อาร์ค (The Ark) ยานอวกาศลำใหญ่ของฝ่ายออโต้บอทส์ได้นำเอาสิ่งประดิษฐ์บางอย่างหนีไป หลังจากจบสงครามระหว่างฝ่ายกู้โลกออโต้บอท และฝ่ายทำลายโลกดีเซปติคอน แต่สุดท้ายยานบินลำนั้นประสบอุบัติเหตุพุ่งชนดวงจันทร์ และ การพุ่งชนครั้งนั้นส่งผลให้มีสัญญาณที่ตรวจเจอความผิดปกติส่งมายังโลกโดยดาวเทียมของ นาซ่า ต่อมา ประธานาธิบดี จอห์น เอฟ.เคนเนดี ได้ออกคำสั่งให้มีภารกิจส่งหน่วยพิเศษเพื่อขึ้นไปสำรวจดวงจันทร์ ในปี คริสต์ศักราช 1969 ลูกเรือของยาน อะพอลโล 11 จึงลงจอดบนดวงจันทร์ได้สำเร็จ ในปัจจุบัน ออโต้บอทส์ทำการร่วมมือกับกองทหารของสหรัฐอเมริกา ในการป้องกันสงครามและการต่อสู้ของหุ่นยนต์ทั่วทั้งโลก รวมทั้งการตามหาเทคโนโลยีต่างดาวที่ถูกซ่อนอยู่บนโลก ออพติมัส ไพรม์ ได้พบกับซากชิ้นส่วนของ ดิ อาร์ค และ พบว่าหุ่นยนต์ฝ่ายดีเซปติคอนส์มีชีวิตรอดมาจากการตกกระแทกของยานอวกาศในครั้งนั้น ได้ทำการโจมตีฝ่ายออโต้บอท และหลบหนีไปได้ เมื่อฝ่ายออโต้บอทรู้ว่ามีการโจมตีโลกอีกครั้ง จึงรวมตัวสมาชิกที่เหลือรอดอยู่บนโลกและออกเดินทางไปรอบโลก เพื่อทำลายชิ้นส่วนของ เดอะอาร์ค และ พบกับบรรพบุรุษของออพติมัส ไพรม์ ชื่อว่า เซนทิเนล ไพรม์ ซึ่งกำลังสลบอยู่ และพบกับเสาพลังงานทั้ง 5 ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อที่จะใช้ในการเคลื่อนย้ายไปมา ระหว่างโลกกับอวกาศ หลังจากกลับมายังโลก ออพติมัสได้ใช้พลังของแมททริกซ์แห่งจิตพลังผู้นำ เพื่อคืนชีพ ให้กับ เซนทิเนล ผู้เป็นพี่ชายของเขา
ประเภทหนัง | ไซไฟ,แอคชั่น, |
กำกับโดย | ไมเคิล เบย์ |
บทภาพยนตร์โดย | โรเบิร์ตโต โอร์ซีอเล็กซ์ เคิร์ทซ์แมนEhren Kruger |
ถือลิขสิทธิ์และสร้างโดย | DreamWorksParamount Pictures |
คะแนน IMDb | 6.2 |
ขณะเดียวกับ แซม วิทวิคกี้ (Sam Witwicky) กำลังสับสนระหว่างการช่วยเหลือออโต้บอทหรือจะออกหางานทำ เนื่องจากเขาอิจฉาและไม่พอใจที่แฟนใหม่ของเขา คาร์ดี้ สเปนเซอร์ (Carly Spencer) ไปสนิทสนมกับ ดีแลน กูลด์ หัวหน้าบริษัทแห่งหนึ่งที่แซมเพิ่งได้งานใหม่ที่นั่น แซม ได้คุยกับเพื่อนของเขาเกี่ยวกับยานบินดิ อาร์คก่อนที่เพื่อนเขาจะถูกสังหารโดยเลเซอร์บีค และแซมก็ได้พยายามติดต่อ กับ ซีมัวร์ ซิมมอนส์ อดีตเจ้าหน้าที่จากหน่วยลับเซ็กเตอร์เซเว่นที่รู้ความลับเรื่องหุ่นยนต์ เพื่อศึกษาเกี่ยวกับฝ่ายดีเซปติคอน และ หัวหน้าเมกะทรอน แซมได้ค้นพบว่าดีเซปติคอนเคยครอบครองยานอวกาศเดอะอาร์คมาก่อน ก่อนที่พวกออโต้บอทจะสละยาน และทิ้งเซนทิเนล ไพรม์ กับเสาหลักทั้ง 5 เสาไว้เพื่อล่อให้ดีเซปติคอนส์ไปติดกับดัก ถือได้ว่าเซนทิเนลคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้เสาทั้ง 5 ทำงานได้ และฝ่ายดีเซปติคอนส์เองก็ต้องการใช้เสาพลังงานเพื่อเคลื่อนย้ายกองทัพ จึงทำให้ดีเซปติคอนส์ต้องไว้ชีวิตเซนทิเนล ไพรม์ ไว้ แซมทราบความจริงดังนั้นจึงรีบเร่งให้บัมเบิลบี ดีโน่ และไซด์สไวป์ รีบกลับไปเพื่อช่วยเหลือเซนทิเนล ไพรม์ แต่เซนทิเนลกลับหักหลังและสังหารหุ่นรบฝ่ายออโต้บอทส์ ชื่อว่า ไอร่อนไฮด์ เนื่องจากเซนทิเนลตัดสินใจทำข้อตกลงกับเมกะทรอนไว้ ว่าจะทำให้เผ่าพันธุ์หุ่นยนต์ทั้งหมดมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่เซนทิเนลรู้ว่า ออโต้บอทส์ไม่ต้องการทำร้ายมนุษย์เพราะหากนำดาวไซเบอร์ตรอนและหุ่นยนต์ทั้งหมดมายังโลกจะทำให้โลกมนุษย์สูญสิ้น เซนทิเนลจึงหักหลังออพติมัส ไปเข้าร่วมกับเมกะทรอนทันที
ต่อมาเซนทิเนลได้ใช้พลังของแท่งเสาเคลื่อนย้ายหุ่นยนต์ทั้งหลายที่ต้องการมายังโลกมนุษย์ ดีเซปติคอนส์ซึ่งมีจำนวนหลายร้อยตัวจึงได้ถูกดูดจากดวงจันทร์มาสู่โลก ในขณะที่คาร์ลี่ แฟนใหม่ของแซม ถูกดีแลนด์ซึ่งแท้จริงแล้วรับใช้ฝ่ายดีเซปติคอนส์อยู่ลับหลังนั้น จับตัวเธอไป และฝ่ายออโต้บอทส์ถูกหน่วยเหนือบังคับให้เดินทางออกจากโลกเพื่อหลีกเลี่ยงสงคราม แซมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่เขาและออพติมัสต้องจากกัน ยานอวกาศได้รับการบินขึ้น แต่สุดท้ายก็ถูกสตาร์สครีมยิงระเบิดหมดทั้งลำ แต่โชคดีที่พวกออโต้บอทส์ได้วางแผนว่าจะขึ้นยานไปแต่แอบสละยานออกก่อนที่ยานจะระเบิดและซ่อนตัวใต้มหาสมุทรแอตแลนติก เพื่อให้เซนทิเนลและเมกาทรอนตายใจว่าออโต้บอทส์เสียชีวิตกันหมดแล้ว เมกะทรอนหลงเชื่อจึงนำเสาทั้ง 5 ไปปักไว้แต่ละทวีปทั่วโลก
เพื่อเคลื่อนย้ายดาวไซเบอร์ตรอนและหุ่นยนต์จากอวกาศมาสู่โลก และ เมื่อมีการดำเนินการเคลื่อนย้ายหุ่นยนต์มายังโลกก็ทำให้ทวีปแรกที่เริ่ม ดำเนินการหายไป แซมจึงร่วมมือกับยูเอส แอร์ฟอร์ซชีพ เพื่อหยุดยั้งการนำหุ่นยนต์จากนอกโลกเข้ามายังโลก และเพื่อช่วยเหลือคาร์ลี่ที่ถูกดีแลนด์จับตัวไปด้วย เป็นไงบ้างค่ะแค่เนื้อเรื่องบางส่วนก็สนุกแล้วใช่ไหม ส่วนหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรอยากให้ไปชมด้วยตัวเองค่ะ
นักแสดงนำของเรื่อง
ไชอา เลอบัฟ (Shia LaBeouf) รับบทเป็น แซม วิทวิคกี้
โรซี่ ฮันติงตั้น ไวท์ลี่ย์ ( Rosie Huntington-Whiteley ) รับบทเป็น คาร์ลี่
จอห์น เทอร์เทอร์โร่ (John Turturro )รับบทเป็น ซีมัวร์ ซิมมอนส์
โจชัว เดวิด “จอช” เดอเมล ( Joshua “Josh” David Duhamel) รับบทเป็น วิลเลี่ยม เลนนิกซ์
ไทรีส ดาร์เนลล์ กิบสัน (Tyrese Darnell Gibson) รับบทเป็น โรเบิร์ต เอ็ปปส์
ตัวอย่างภาพยนตร์
ไฮไลท์ของหนัง
1. ฉากแอคชั่นซึ่งทำให้ลืมข้อด้อยของหนังไปหมด จัดให้เป็นหนังน่าดูที่ยังสามารถรับชมได้ในปี 2021 เอฟเฟคเนียนตาและเทคนิคต่างๆ เทียบเท่าหนังบางเรื่องในปี 2021 ได้เลย
2. อีกอย่างหนึ่งที่ดีของหนังภาคนี้คือการโยงเรื่องราวในหนังเข้ากับประวัติศาสตร์ของมนุษย์ในโลกความจริงแต่ต้องออกตัวก่อนนะค่ะว่าโยงแบบกึ่งมโนเอาเองนะคะ
3. จุดเด่นอีกอย่างของหนังเรื่องนี้หรือเรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของทั้งสามภาคเลยก็ได้คือ การออกแบบหุ่นยนต์ ที่เท่ห์ได้ใจและซีจีที่ทำออกมาได้แบบเนียนกริ๊บไม่ลอยไม่ขัดหูขัดตาเวลาดู
ขอบอกเลยว่าสนุกตื่นเต้นสมการรอคอย หลังจากผิดหวังกับภาคที่แล้วไปนิดหน่อย ซึ่งมาให้ภาคนี้ผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างออกมาเคลมว่าได้ทำการบ้านมาอย่างดีเพื่อแก้ตัว แล้วก็ทำออกมาได้ดีจริงๆ
ที่มาเพิ่มเติม
https://th.wikipedia.org/