รีวิวหนังสนุกๆ วันนี้ เรามาทำความรู้สึกกับภาพยนตร์แนวซูเปอร์ฮีโร่ ที่เหมือนจะเป็นตัวร้ายก็ไม่เชิงตัวดีก็ไม่น่าใช่ แต่บางมุมก็น่ารักขิขุใช่ย่อย เปลี่ยนมุมมองความน่ากลัวจากปรสิตตัวสีดำ ฟันแหลม ลิ้นยาวๆให้กลายเป็นน่าดูไปซะงั้น ซึ่งภาพยนตร์ได้เข้าฉายไปแล้วเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมาและแม้จะได้กระแสตอบรับจากต่างประเทศที่ไม่ดีนัก แต่กลับสวนทางไทยที่ได้คำวิจารย์ในทางบวก รวมถึงรายได้ทั่วโลกก็เช่นกัน โดยหนังได้ผู้กำกับอย่าง Ruben Fleischer มาสร้างสรรค์ผลงาน และทีมนักแสดงโดย Tom Hardy รับบทเป็น เอ็ดดี้ บร็อค, Michelle Williams รับบทเป็น แอนนี่ เวย์อิ้ง, Riz Ahmed รับบทเป็น คาร์ลตัน เดรค และทีมนักแสดงอื่นๆ อีกมากมาย และภาพยนตร์ได้ดัดแปลงมาจากตัวละคร Venom ของมาร์เวลคอมิกส์ จะเห็นถึงความแปลกใหม่ของฮีโร่ที่ไม่เหมือนใครเลยจริงๆ
นักแสดงนำโดย
Tom Hardy รับบทเป็น เอ็ดดี้ บร็อค
Michelle Williams รับบทเป็น แอนนี่ เวย์อิ้ง
Riz Ahmed รับบทเป็น คาร์ลตัน เดรค
ประเภทภาพยนตร์ : แนวซูเปอร์ฮีโร่
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Ruben Fleischer
ผู้เขียนบทภาพยนตร์ : Jeff Pinkner, Scott Rosenberg, Kelly marcel
ค่ายหนัง/ผู้จัดจำหน่าย : Columbia PicturesMarvel EntertainmentArad ProductionsMatt Tolmach ProductionsPascal Pictures Sony Pictures Releasing
คะแนน IMDb : 6.7
เรื่องย่อ
เรื่องราวเกิดขึ้นจาก เอ็ดดี้ บร็อค ซึ่งเป็นนักข่าวที่ไปสัมภาษณ์คาร์ลตัน เดรค เจ้าของ Life Foundation ที่ได้ทำการทดลองอย่างลับๆ กับมนุษย์มากมาย เอ็ดดี้ได้ไปถามคำถามจี้ใจ คาร์ลตัน ทำให้เอ็ดดี้ตกงานและโดนแฟนทิ้งจนชีวิตตกอับกลายเป็นเหมือนคนขี้แพ้อยู่ระยะเวลาหนึ่ง และเมื่อโอกาสมาถึงเอ็ดดี้ตัดสินใจที่จะกลับไปทำข่าวของ Life Foundation อีกครั้งเพื่อเปิดโปงโครงการลับอีกอย่างที่เดรคซ่อนไว้ คือเขาได้นำเอาปรสิตเอเลี่ยนจากนอกโลกเข้ามาทำการทดลองกับมนุษย์เพื่อหาความเข้ากันให้ได้มากที่สุด จนกระทั่งเอ็ดดี้ถูกปรสิตที่มีชื่อว่า เวน่อม เข้ายึดร่าง และนี่คือจุดเริ่มต้นของคู่ซี้ต่างขั้วที่แสนจะให้ความบันเทิงเพลิดเพลินใจ
รีวิวเนื้อเรื่อง
แม้เนื้อเรื่องออกจะจำเจไปสักนิดแสนจะเดาง่าย และหนังก็ปูเรื่องเล่าความอยู่เป็นพักใหญ่ๆ ถึงชะตากรรมที่เอ็ดดี้ต้องเผชิญ แต่โดยส่วนตัวก็ถือว่าหนังไม่ได้น่าเบื่อ ออกจะดูเพลิน เรียกเสียงฮาลั่นได้เป็นช่วงๆ เอาเป็นว่าดูเรื่องนี้ไม่ต้องคิดเยอะว่าหนังจะไปเชื่อมโยงกับจักรวาลไหน แต่ดูแล้วเข้าใจเนื้อเรื่องมีที่มาที่ไปชัดเจน แม้กว่าเวน่อมจะปรากฏตัวก็ปาเข้าไปเกือบครึ่งเรื่อง เพราะต้องขยายความที่มาที่ไปของเวน่อมให้เยอะหน่อย ในต้นๆ เรื่องหนังทำออกมาเป็นบรรยากาศแนวสยองขวัญหน่อยๆ หลังจากเวน่อมปรากฎตัวแล้วก็ถึงเวลาที่เข้าสู่โหมดหนังฮีโร่อย่างเต็มตัวแล้ว แถมด้วยความบ้าบอเข้าไปอีก
รีวิวตัวละคร
บทบาทที่ทอมได้รับเป็นบทบาทของ ไอ้ขี้แพ้ เพราะความรักสันโดษไม่ชอบมีเรื่องกับใคร แต่เมื่อมีเวน่อมเข้ามาอยู่ในร่าง ทำให้เอ็ดดี้มีบางสิ่งมาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป เวน่อมจึงดูเหมือนจะเป็นตัวร้ายที่ดูมีมนุษยธรรม บางทีก็ก้าวร้าว บางทีก็อยากกินสมองคน บางทีก็ดูเชื่อง ซึ่งตรงนี้บทบาทที่ได้รับของนักแสดงทำออกมาได้ดี แสดงได้มีมิติ บทหนังทำให้เห็นพัฒนาการของตัวละครไปในทางที่ดีขึ้น เมื่อผสานร่างกัน พวกเขาทำได้ทุกอย่างและมีอิทธิพลต่อกันและกัน มีทั้งฝ่ายดีและฝ่ายชั่วในตัวเอง
และที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยคือตัวละครวายร้ายอย่าง เวน่อม เป็นที่จดจำในภาพลักษณ์ตัวสีดำ ตาเรียวสีขาว ปากกว้าง ลิ้นยาวและฟันแหลม ซึ่งเมื่อไม่ได้สิงในร่างคนจะมีสถานะเป็นของเหลว และเป็นตัวละครที่ได้รับการพูดถึงอยู่เสมอเกี่ยวกับจักรวาลมาร์เวล ซึ่งบุคลิกของเวน่อมดูมีความอันตราย น่ากลัว คาดเดายาก แต่ฉลาดและชอบความรุนแรง และที่กล่าวมานี้ทำให้เวน่อมได้รับความนิยมสูง
รีวิวรวม
หนังทำออกมาได้ดีแม้บางฉากที่ซีจีจะไม่เนียนเอาซะเลยทำให้รู้สึกเหมือนเรากำลังดูการ์ตูนอยู่ แต่ความเกรียนของเวน่อมก็เอาอยู่ ทำให้เรามองข้ามจุดพร่องเล็กๆ ไปได้ หนังให้ความบันเทิงกับเราเน้นๆ ไม่ใช่หนังสยองขวัญ ไม่มีเลือดสาดทำให้ภาพที่เราจำจากการดูหนังตัวอย่างหายไปเลย จากที่คิดว่าต้องมาสายดาร์กแน่ๆ เชียว ซึ่งตามหลักแล้ว Venom เป็นตัวร้ายคู่ปรับตลอดกาลจากเรื่องสไปเดอร์แมน แต่หนังก็สร้างออกมาไม่ได้เชื่อมโยงกันสักเท่าไหร่ แบบไม่ได้กล่าวถึงเลยด้วยซ้ำ จะมีที่เชื่อมโยงคือ เอ็ดดี้เคยทำงานที่เดลี่ บูเกิ้ล ในนิวยอร์ค ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์เดียวกันกับ ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ เคยทำงานอยู่
บทส่งท้าย
ยกให้ Venom เป็นหนังที่น่ารับชม ซึ่งตอนนี้ เวน่อมก็มีถึง ภาค 2 แล้ว เข้าฉายไปเมื่อปี 2021ที่ผ่านมา แต่ก่อนจะไปรีวิวภาค 2 แอดมินต้องขอเทคะแนนให้กับภาคนี้ก่อนที่ 8/10 ฉากไล่ล่ายังไม่ตื่นเต้นเท่าที่ควร ฉากที่ควรจะพีคกลับยังไม่สุดจริง แต่หนังก็ได้คะแนนและคำวิจารณ์ที่ดี ดูสนุก ไม่เบื่อ การันตรีด้วยคะแนนจากเว็บไซต์รีวิวหนังอย่าง Imdb ที่ได้คะแนนไปถึง 6.7 เลยทีเดียว โดยสรุปแล้วเป็นหนังที่ควรรับชม แม้อาจจะไม่ถูกใจแฟนหนังซูเปอร์ฮีโร่สักเท่าไหร่ แต่ส่วนตัวถือว่าถูกใจแอดมินจนลืมกระแสวิจารณ์ด้านลบจากเมืองนอกไปเลย สำหรับวันนี้ เราต้องขอจบการรีวิวหนังสนุกๆ ไว้แต่เพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่กับการรีวิวหนังปี 2022 เรื่องต่อไป สวัสดีค่ะ
รับชมตัวอย่างภาพยนตร์ได้ที่
https://www.youtube.com/watch?v=u9Mv98Gr5pY
ที่มา : www.kwanmanie.com, www.beartai.com, www.posttoday.com, th.wikipedia.org