ครั้งนี้ก็มาถึงคิวของ Wonder Woman 1984 เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ของ Wonder Woman ต่อของภาพยนตร์เรื่อง วันเดอร์ วูแมน ในปี ค.ศ. 2017และเป็นภาพยนตร์ลำดับที่เก้าในจักรวาลขยายดีซี ซึ่งภาพยนตร์ดำเนินเรื่องในปี ค.ศ. 1984 ซึ่งเป็นช่วงสงครามเย็น โดยไดอาน่าและสตีฟ เทรเวอร์ อดีตคนรักของเธอ ต้องเผชิญหน้ากับ แม็กเวลล์ ลอร์ดและชีตาห์ แต่เดิม วันเดอร์ วูแมน 1984 กำหนดฉายในอเมริกาเหนือวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 2020 แต่ถูกเลื่อนหลายครั้งและในที่สุดก็ยกเลิก เนื่องจากการระบาดทั่วของโควิด-19 ภาพยนตร์ฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2020

เรื่องราว ช่วงต้นเรื่องเล่าถึงคน 3 คน คนแรก คือ ไดอาน่า ปริ้น เจ้าหญิง ผู้โดดเดี่ยว ทำกลาง เมืองอันวุ่นวาย อย่างมหานครนิวยอร์ก ภาพพยาม ฉายให้เห็นว่า เธอได้แต่หวนคิดถึง คนรักเก่า และ ไม่เคยคิดที่จะ ยุ่งเกี่ยวกับ ชาย อื่นอีกเลย แม็ค ลอร์ด นักธุรกิจ หนุ่ม ที่ต้องเผชิญ ปัญหาทางธุรกิจ ที่ผิดพลาด อย่างรุนแรง กำลังเผชิญ กับ สภาวะ ล้มละลาย มีปัญหาเรื่อง ถูก นายทุน ตามทวงเงิน และ ดูถูกว่าเป็นไอ้ ขี้แพ้ ยัง มี ความซับซ้อน ของปัญหาของตัวเขา เกี่ยวกับ ลูกชาย (เป็นเด็กเอเชีย ) เราไม่ได้ติดตามหนังเรื่องนี้ มาแต่แรก เลยไม่รู้ว่า เพราะอะไร ทำไมหนังถึง ย้อนเข้าสู่ยุค 1984 และ ทำไม แมค ลอร์ด ถึงมีลูกชาย เป็นเด็ก เอเชีย แมค ลอร์ด ผู้ปรารถนา หวังจะ กลับมายิ่งใหญ่ มีทุกสิ่งทุกอย่าง ครอบครองทุกอย่าง ที่ปรารถนา และ ไม่เคยรู้จักกับคำว่า พอเพียง ซีตาร์ แม่เสือสาว ตัวร้าย ของเรื่องนี้ เปิดตัวมาเธอเป็นนักวิทยาศาสตร์ สาวเฉิ่มเบ๊อะ ที่ไม่มีใครสนใจ จะมองเพราะการแต่งตัวของเธอ ทำให้ เธอ ถูกคุกคามกลั่นแกล้ง กลายเป็นความโกรธแค้น เกลียดชัง ที่ซ่อนตัวอยู่ เป็นปมชีวิต ด้านหนึ่ง และแล้ว พวกเขาได้ค้นพบ หิน แห่งความปรารถนา ที่สามารถขอพรอะไรก็ได้ 1 ข้อ
ประเภทหนัง | แอคชั่น,ซูเปอร์ฮีโร |
กำกับโดย | แพตตี เจนคินส์ |
บทภาพยนตร์โดย | แพตตี เจนคินส์เจฟฟ์ จอห์น |
ถือลิขสิทธิ์และสร้างโดย | Warner Bros |
คะแนน IMDb | 5.4 |
ไดอาน่า แม่สาว ซุปเปอร์ ฮีโร เป็นคนแรก ที่ ได้ใช้มัน เพราะเธอรู้ดีว่า มันคืออะไร ดังนั้น เธอจึงได้ คนรักเก่าของเธอกลับมาเกิดใหม่ .. ฝันที่เป็นจริง ช่วงเวลากลางคืน แห่งความสุข ของเธอ.. ที่ได้นอนกอดกับคนที่เธอรักอีกครั้ง ซีตาร์ นักวิ่ทยาศาสตร์ สาว ที่เธอถูกเรียกตัวมา เพื่อตรวจสอบ หินประหลาดนี้ว่ามันคือหินอะไร แรกเลยเธอคิดว่ามันคือของปลอมที่ทำขึ้น แต่ ไดอาน่า เธอเป็นคนที่ อ่านภาษาโบราณออก เธอจึงเชื่อว่ามันเป็นของจริง ตัว ซีตาร์ เอง ก็ แอบ เอามันไป ขอพร ให้เธอ สวย แข็งแรง และเซ็กซี่ สาวเฉิ่มๆ บ้านๆ จึงเปลี่ยนไป แม็ค ลอร์ด ผู้ตามหา หิน แห่งความปารถนา นี้มาโดยตลอด ได้ เข้ามาตีสนิทกับ ซีตาร์ และ ขอ เอาหินนี้ไป ซีตาร์ ผู้ไม่รู้ คุณค่าของ หินอัญมณี ล้ำค่านี้ จึงให้ยืมไปง่ายๆ

แม็ค ลอร์ด ค้นคว้ามาดีแล้วว่า หิน นี้ มีทั้งคุณ และโทษ เมื่อขอพรไปหนึ่ง สิ่ง มันจะต้องแลกด้วย หนึ่งสิ่งที่ตัวเอง รัก.. และ คนหนึ่งคน จะขอพรได้เพียง ครั้งเดียว เขาจึง ขอพรให้ตัวเขา กลายเป็น ผู้ที่ให้พร คนอื่นได้ หินจึงรวมร่างไปกับ แม็ค ลอร์ด แม็ค ลอร์ด ได้ความวิเศษไป แล้ว จึงนำไปแก้แค้น กับคนที่เคยดูถูกเขา และ สร้างความวุ่นวาย ให้มากขึ้น ด้วยการให้พร มั่วๆไปกับผู้คนมากมาย แต่เขา มักจะขอ บางอย่าง กลับมาจากคนที่เขาให้พร เช่น ราชาบ่อน้ำมัน เขา ให้พร เป็นกำแพง กั้นเมือง และ ขอ ยึดอำนาจ ของ ราชาบ่อน้ำมัน นำกำลังทหารของพวกนั้น ไปเป็นของตน ไดอาน่า ต้องชดเชย ให้กับ หินที่เธอขอพร ด้วย พลัง วิเศษของเธอ เมื่อเธอไม่มีพลัง ก็ไม่สามารถที่จะหยุด แมค ลอร์ด ได้ แฟนของเธอ จึงขอให้เธอลืมเขาซะแล้ว กลับไปใช้ชีวิต ผู้ชายดีๆ ในโลกยังมีอีกมากมาย วิธีเดียวที่จะทำลายหินแห่งความปรารถนานี้ลงได้ คือต้อง กำจัด แม็ค ลอร์ด ซีตาร์ ไม่ยอมเรื่องนี้ เธอไม่ยอมให้ใครทำลาย หินนี้ เพราะมันจะทำให้เธอ ต้องกลับไปเป็นคนเก่า เธอยอมรับไม่ได้ เธอชอบที่เธอแกร่ง และเก่งขึ้น เซ็กซี่ และสวย เธอหลงผิดและมัวเมาอยู่กับพลังอำนาจ วิเศษที่เธอได้ ถึงกับ ฆ่าคนที่เคย กลั่นแกล้งเธอ เธอฆ่าเขาอย่างเหี้ยมโหด

หนังเรื่องนี้ เป็นหนังเด็ก ตอนจบ คนที่หลงผิด สองคนได้รับบทเรียน จาก ไดอาน่า เจ้าหญิง อเมซอน ผู้เลอโฉม ช่วยให้ตัวร้ายสองตัวยอมกลับใจ
นักแสดงนำของเรื่อง
กัล กาด็อต-วาร์ซาโน (Gal Gadot-Varsano) รับบทเป็น วันเดอร์วูแมน

คริสโตเฟอร์ ไวต์ลอว์ ไพน์ (Christopher Whitelaw Pine) รับบทเป็น สตีฟ เทรเวอร์

คริสเตน แคร์รอลล์ วิก ( Kristen Carroll Wiig) รับบทเป็น บาร์บารา มิเนอร์วา / ชีตาห์:

คอนนี่ เนลเซ่น ( Connie Nielsen ) รับบทเป็น ราชินี ฮิปโปลิต้

เปโดร ปาสกาล ( Pedro Pascal ) รับบทเป็น แม็กซ์เวลล์ ลอร์ด:

โรบิน ไรท์ ( Robin Wright ) รับบทเป็น แอนทิโอเป่

ตัวอย่างภาพยนตร์
ไฮไลท์ของหนัง
1. การที่แพตตี้ เจนกินส์ เลือกฉากหลังของภาคนี้ให้เกิดขึ้นในยุค 80s ก็ถือได้ว่าเป็นจุดแข็งหนึ่งของหนัง เพราะใช้ประโยชน์ได้ทั้ง 2 ด้าน ทั้งด้านความเป็นสีสัน ที่พาให้คนรุ่นเก่าได้หวนรำลึกถึงอดีต ได้เห็นบรรยากาศยุคแห่งสีสันจัดจ้าน
2. สถาปัตยกรรมและเครื่องแต่งกาย ได้เห็นเด็ก ๆ เต้นเบรกแดนซ์ ในด้านตรงข้ามหนังก็ดึงประเด็นความเป็นยุคสงครามเย็นมาใช้อ้างอิงในฉากไคลแมกซ์ท้ายเรื่องได้อีกด้วย
3. พอจะพูดได้ว่าฉากที่ดีที่สุดในภาคนี้ก็คือฉากแข่งขันกีฬาของชนเผ่าอะเมซอน ตอนเปิดเรื่องนั่นล่ะ ที่ได้เห็นกลไก อุปกรณ์รูปแบบของการแข่งขันที่ดูแปลกตา เห็นได้ชัดว่าผ่านการทำการบ้านในการคิดสร้างสรรค์มาอย่างมาก

โดยรวมแล้วหนังอยู่ในระดับมาตรฐานของหนังซูเปอร์ฮีโร ให้ความบันเทิงได้พอประมาณ แต่ไม่สามารถพูดได้ว่านี่คือหนังซูเปอร์ฮีโรที่ สนุกอยากให้ลองไปหามาชมกันค่ะ รับประกันว่าไม่ทำให้ทุกคนต้องผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะ
ที่มาเพิ่มเติม
th.wikipedia.org